กทม.24 ก.พ.-เจ้าของโรงงานขนม ย่านลาดพร้าว วังหิน ร้องอุปทูตเมียนมาช่วย กรณีถูกแรงงานเมียนมากล่าวโทษต่อดีเอสไอจนถูกดำเนินคดีค้ามนุษย์ ยันนำเข้าแรงงานถูกกฎหมาย
นางสาว ลักษมน วิบูลย์ลักษณากุล พามารดาและน้องชาย พร้อมนายอนันตชัย ไชยเดช ทนายความ เข้าพบตัวแทนอุปฑูตเมียนมาประจำประเทศไทย หลังทั้ง 3 คน ถูกชายชาวเมียนมา อ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่สถานฑูตเมียนมาประจำประเทศไทย กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ว่ามีพฤติการณ์บังคับใช้แรงงานชาวเมียนมา ในโรงงานทำขนมย่านลาดพร้าว วังหิน จนถูกค้นโรงงานเมื่อเดือนมกราคม 2564 และถูกจับกุมเมื่อวันที่ 17 มกราคม ที่ผ่านมา จนตกเป็นจำเลยในคดีค้ามนุษย์ในศาลอาญา แผนกคดีค้ามนุษย์ในขณะนี้
นางสาวลักษมน เล่าว่า คดีความที่ตนเองและครอบครัวตกเป็นจำเลย เกิดจากมีแรงงานเมียนมาในโรงงานได้ติดต่อให้มีการเจรจาพูดคุยกับชายคนดังกล่าวเรียกเงิน 6 พันบาท แต่กิจการของตนนำเข้าแรงงานอย่างถูกต้องตามกฎหมายทุกอย่าง และไม่เคยมีการกักขัง บังคับใช้แรงงาน มารดาของตน จึงปฏิเสธ อึกฝ่ายจึงข่มขู่ว่าจะมีเจ้าหน้าที่เข้ามาจับกุมพวกตน โดยระหว่างการพูดคุยทางโทรศัพท์ผ่านแอพพลิเคชันแมนเซนเจอร์ได้มีการบันทึกภาพและเสียงไว้ตลอด ส่วนการเข้าพบตัวแทนอุปฑูตเมียนมาวันนี้ได้รับคำยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
ด้านนายอนันตชัย ระบุว่าชายคนดังกล่าวไม่ใช่เจ้าหน้าที่ฑูตเมียนมา แต่เป็นนายหน้าค้าแรงงานมีถิ่นที่อยู่ในจังหวัดนครราชสีมา โดยคดีที่เกิดขึ้นกับลูกความเป็นการจงใจกลั่นแกล้งหลังจากเรียกเงินไม่ได้ โดยเจ้าหน้าที่ไทยก็ไม่ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงให้ดีก่อนและยังมีการดำเนินคดีในลักษณะผิดปกติ ไม่เป็นไปตาม กฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา สร้างความเสียหายให้แก่ผู้ประกอบการชาวไทยอย่างมาก ซึ่งจำเป็นต้องดำเนินคดีกลับเพื่อให้เป็นเยี่ยงอย่างรวมทั้งให้เกิดการปรับปรุงกระบวนการยุติธรรมของประเทศ.-สำนักข่าวไทย