กรุงเทพฯ 24 ก.พ.- รัฐมนตรีคลัง หวังท่องเที่ยว การส่งออก เป็นกำลังหลักช่วยขับเคลื่อนจีดีพีไทย ท่ามกลางโควิด-19 ต้องบริหารเศรษฐกิจแบบผสม ผ่านออนไลน์ และสร้างกิจกรรมจริง มองปัญหายูเครนไม่ยือเยื้อ หนุนเอสเอ็มอี ผู้ประกอบการสตาร์ทอัพ ให้มีบทบาทสำคัญในการผลักดันเศรษฐกิจดิจิทัล มุ่งลงทุนเขตอีอีซีเป็นแม่เหล็กสำคัญฟื้นเศรษฐกิจไทย
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังปาฐกถาพิเศษในงานสัมมนาสมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจก้าวสู่ปีที่ 44 เรื่อง “พลิกฟื้นเศรษฐกิจไทย หลังวิกฤติโควิด-19” โดยกล่าวว่า ผลกระทบจากโควิด-19 ต้องได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่าย แม้ว่ารัฐบาลพยายามเปิดประเทศ ด้วยระบบ Test & Go ยังมีนักท่องเที่ยวต่างชาติต้องการเข้าไทยกว่า 3 แสนคน นับว่ามีความต้องการสูง ที่ต้องการเดินทางเข้าไทย จึงเป็นแรงส่งสร้างรายได้ให้กับประเทศ เมื่อจีดีพีไทยปี 64 ร้อยละ 1.6 และจะทำให้จีดีพีปี 65 ขยายตัวฟื้นตัวต่อเนื่อง เมื่อการส่งออกขยายตัวร้อยละ 17 หลายประเทศทั่วโลกเศรษฐกิจเร่ิมฟื้นตัว จึงมีออเดอร์สั่งซื้อสินค้า แต่ยอมรับว่าไตรมาส 1 ปี 65 จีดีพีของหลายประเทศเศรษฐกิจแผ่วลง รวมทั้งไทย
นายอาคม ย้ำว่า ความขัดแย้งของยูเครนกับรัสเซีย ส่งผลต่อราคาน้ำมันผันผวน มองว่า ความขัดแย้งจบลงด้วยดี เพราะในช่วงเผชิญกับปัญหาโควิด-19 คงไม่อยากขัดแย้งยาวนาน และปริมาณน้ำมันจากกลุ่มอิหร่าน เริ่มเจรจากับสหรัฐ หากหาข้อสรุปร่วมกันได้ จะมีปริมาณกำลังการผลิตเพิ่ม น้ำมันดิบอาจอยู่ในราคา 90-100 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล นอกจากนี้ สหรัฐ ยุโรป ยังเร่งเจรจาเพื่อหาข้อยุติร่วมกัน กระทรวงคลัง จึงต้องติดตามสถานการน้ำมันอย่างใกล้ชิด ขณะนี้ขอตรึงราคาน้ำมันดีเซล 30 บาทต่อลิตร และการลดภาษีสรรพสามิตมาช่วยเหลือ 3 บาทต่อลิตร โดยตอบไม่ชัดเจนว่าต้องใช้มาตรการใดเข้ามาดูแลปัญหาราคาน้ำมันผันผวนในช่วงนี้เพิ่มเติม รัฐบาลยังต้องบริหารต้นทุนจากวัตถุดิบ การกักตุนสินค้า และการขนส่ง ซึ่งเป็นปัจจัยทำให้สินค้าแพง มองว่าเป็นปัจจัยในระยะสั้นผลักดันอัตราเงินเฟ้อ จึงต้องเร่งพัฒนาระบบขนส่ง มาช่วยลดต้นทุนการขนส่งสินค้า
ทั้งนี้ ยอมรับว่าไทยยังเป็นห่วงปัญหาโควิด-19 แต่รัฐบาลยังต้องการผลักดันเศรษฐกิจให้ฟื้นตัว จึงออกมาตรการขอความร่วมมือให้ทุกคนระมัดระวังการแพร่ระบาด รัฐบาลยังพร้อมดูแลผู้ป่วยโควิด-19 เหมือนกัน โดยหลายประเทศดำเนินนโยบายเศรษฐกินเหมือนกันหมด ประชุมสัมมนา จัดกิจกรรมแบบผสม ทั้งออนไลน์ และสถานที่จริงผสมกัน แต่ไม่อยากให้ตกใจมากเกินไป เพราะต้องบริหารเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวควบคู่ไปด้วย อีกด้านคือ แนวโน้มอัตราดอกเบี้ย เมื่อเฟด เตรียมประกาศปรับเพิ่มดอกเบี้ย นโยบายการเงิน การคลัง ต้องผสมผสาน เพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายประชาชน เพราะยังมีความจำเป็น ทุกประเทศทั่วโลกต้องใช้เงินเพื่อช่วยกำลังซื้อ
นายอาคม ยอมรับว่าภาระหนี้สาธารณะจากสิ้นปี 64 ร้อยละ 59 ของจีดีพี คาดว่าสิ้นปีงบประมาณปี 65 ในเดือนตุลาคม 65 หนี้สาธารณะอยู่ในสัดส่วนร้อยละ 62 ของจีดีพี ขณะนี้ พ.ร.ก.เงินกู้ 5 แสนล้านบาท ยังคงเหลือ 1 แสนล้านบาทนั้น กระทรวงคลังมองว่ายังอยู่ในกรอบบริหารจัดการต่อภาวะเศรษฐกิจท่ามกลางปัญหาโควิด -19 โดยยังทยอยกู้เงินในประเทศเป็นหลัก แต่บางส่วนเพิ่มขอกู้จากต่างประเทศ เพราะองค์กรระหว่างประเทศ เช่น ADB ธนาคารโลก ญี่ปุ่น ต้องการปล่อยกู้ให้กับไทยในวงเงิน 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จึงต้องพิจารณาหาแหล่งทุนทั้งในและต่างประเทศให้สมดุล เพราะภาคเอกชนไทยยังต้องการออกหุ้นกู้ เพื่อขยายการลงทุนด้วยเช่นกัน คลังไม่อยากให้กระทบต่อภาคเอกชนมากเกินไป
นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า เมื่อรัฐบาลผ่อนคลายระบบคัดกรองชาวต่างชาติแลล Test&Go โดยในวันที่ 5 ใช้เพียงผลตรวจ ATK ได้ทำให้ชาวต่างชาติลงทะเบียนเข้าไทย 5-6 ล้านคน นับว่าได้เพิ่มส่งเสริมการท่องเที่ยวได้อีกทางหนึ่ง นอกจากนี้รัฐบาลต้องเร่งฟื้นเศรษฐกิจภายในประเทศ เพื่อให้เศรษฐกิจต่างจังหวัดฟื้นตัว แม้หลายฝ่ายกังวลว่าเศรษฐกิจไตรมาสแรกอาจแผ่งลงบ้าง แต่หอการค้าไทย มองว่าในช่วงไตรมาส2 จะเริ่มดีขึ้น จึงควรนำแรงงานต่างด้าวจากประเทศเพื่อนบ้านกลับมาทำงาน เพราะเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย
กรณีปัญหายูเครน-รัสเซีย มองว่าสงครามไม่เกิดขึ้นแน่นอน เพราะหากมีปัญหารุนแรง น้ำมันดิบขยับเพิ่ม 1 ดอลลาร์สหรัฐ จะทำให้น้ำมันขายปลีกในประเทศไทยปรับเพิ่ม 50 สตางต์ต่อลิตร จึงมองว่าราคาน้ำมันดิบคงไม่ขยับถึง 120 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาเรลล์ เพราะหากวิ่งไปดึงระดับดังกล่าวจะทำให้ราคาขายปลีกน้ำมันในประเทศพุ่งถึง 6 บาท จึงมองว่าเหตุการณ์ดังกล่าวคงไม่เกิดขึ้น หากสถานการณ์ยังไม่ยุติ รัฐบาลอาจพิจารณาหาทางดูแลราคาน้ำมันไม่ให้พุ่งสูง จนกระทบต่อหลายส่วน โดยเฉพาะต้นทุนการขนส่ง
นายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย กล่าวว่า ปัญหาความขัดแย้งในยูเครน ต้องจับตาดูการแบ่งขั้วของกลุ่มพันธมิตร ประเทศคู่ค้า เทคโนโลยี ซับพลายเชน ของแต่ละกลุ่มจะได้รับผลกระทบตามมาอย่างไร ระหว่างกลุ่มประเทศตะวันตก กับพันธมิตรรัสเซีย ซึ่งทำให้เศรษฐกิจโลก ต้องเผชิญกับความท้าทาย โดยยังประเมินเศรษฐกิจไทยขยายตัวร้อยละ 3-4.5 เมื่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยยังไม่เต็มศักยภาพ จึงต้องแสวงหาโอกาสการลงทุนในกลุ่มบลูโอเชียนในเศรษฐกิจดิจิทัลที่มีแนวโน้มการเติบโตสูง.- สำนักข่าวไทย