“สุวิทย์” เร่งพัฒนางานวิจัยรองรับไทยแลนด์ 4.0

กรุงเทพฯ 19 มี.ค. – นายสุวิทย์  เมษินทรีย์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี มอบนโยบายสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) เพื่อต้องการให้ปฏิรูปองค์กรและพัฒนางานวิจัยรองรับความต้องการของภาคเอกชน สนับสนุนนโยบายไทยแลนด์ 4.0 เพื่อเปลี่ยนจากการผลิตมากได้เงินน้อย เปลี่ยนมาเป็นผลิตน้อยแต่ได้เงินมาก งานวิจัยและนวัตกรรมจึงตอบโจทย์ได้อย่างดีเยี่ยม และนโยบายการลดปัญหาความเหลื่อมล้ำในกลุ่มเกษตรกร แรงงาน ภาคบริการ ท่องเที่ยว ดังนั้น วช.จะเน้นเพียงด้านเทคโนโลยีอย่างเดียวไม่ได้แล้ว จึงต้องปรับมาเน้นการวิจัยพัฒนาวิทยาศาสตร์ทางสังคมมากขึ้น  รวมทั้งการศึกษาวิจัยดูแลสังคมผู้สูงอายุ หรือปัญหาสังคมคุณแม่วัยใส ปัญหาขยะ ซึ่งเริ่มมีปัญหามากขึ้นอย่างน่ากลัว


สุวิทย์-งานวิจัย

รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี  กล่าวว่า  การวิจัยเป็นเครื่องมือสำคัญในการแก้ปัญหาด้านต่าง ๆ และการมองหาโอกาสให้กับประเทศในอนาคต  จึงมอบหมายให้ วช.ร่วมมือกับสำนักงานคณะกรรมการนโยบายวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมแห่งชาติ (สวทน.) อย่างใกล้ชิด เพื่อตอบโจทย์ คือ การขับเคลื่อนเรื่องวิจัยและนวัตกรรม และปฏิรูปองค์กรเพื่อตอบโจทย์ไทยแลนด์ 4.0 ผ่านการนำบทวิจัยไปสู่การปรับใช้เชิงพาณิชย์ ทั้งเกษตร อุตสาหกรรม บริการ เพราะขณะนี้ไทยนำเข้าเทคโนโลยีสูงมาก ขณะที่ไทยมีนักวิจัย ผู้เชี่ยวชาญ ที่มีความสามารถจำนวนมาก จึงต้องการหลุดพ้นกับดักดังกล่าวและการนำบทวิจัยช่วยแก้ปัญหาทางสังคม จึงต้องนำวิทยาศาสตร์มาช่วยแก้ปัญหา  ตลอดจนนำงานวิจัยมาตอบโจทย์ด้านเทคโนโลยี เพราะรัฐบาลมีนโยบายส่งเสริมไบโอเทคโนโลยี ดิจิทัลเทคโนโลยี การพัฒนาวัตถุดิบขั้นสูงด้านอิเล็กทรอนิกส์ และนาโนเทคโนโลยี สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ประกาศให้เป็นกลุ่มได้รับการส่งเสริมสอดรับแผนงานของสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ  (สวทช.) จึงต้องการให้ สวทน.และ วช.มีกลุ่มเป้าหมายตรงกันในการขับเคลื่อนนโยบาย


นายสุวิทย์  กล่าวว่า  การพัฒนาวิจัยต้องจัดองคาพยพใหม่ เพราะขณะนี้ยังทำการวิจัยแบบเบี้ยหัวแตกเป็นการวิจัยแบบเชิงปริมาณ โดยไม่ได้ตอบโจทย์ความต้องการของภาคธุรกิจที่ต้องการนำไปใช้ในเชิงอุตสาหกรรม หรือความต้องการของประเทศ และการวิจัยส่วนใหญ่ยังต่างคนต่างทำและจบเป็นรายปี ดังนั้น จากนี้ไปคงเน้นการวิจัยแบบยุทธศาสตร์ มีกลุ่มเป้าหมายชัดเจน ผ่านความร่วมมือกับมหาวิทยาลัย เพื่อให้เกิดพลังในการขับเคลื่อน ดังนั้น วช.และสวทน.ต้องจับเข่าคุยกัน เพื่อสนองนโยบายของรัฐบาลอย่างจริงจัง เพราะแนวโน้มเศรษฐกิจโลกไปในทิศทางดังกล่าว ในช่วง 3-5 ปี ข้างหน้าจะมีผลงานวิจัยและอะไรจะเกิดขึ้น ต้องกำหนดเป้าหมายชัดเจน เช่น สมาร์ทฟาร์มเมอร์ ต้องมีแนวทางเข้าไปดูแลเกษตรกร ทั้ง วช.และ สวทน.จะเป็นองค์กรสำคัญต่อการพัฒนาด้านเศรษฐกิจและสังคมมากขึ้น. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เหล้าเถื่อนลาว

เสียชีวิตรายที่ 6 คลัสเตอร์เหล้าเถื่อนในลาว

คลัสเตอร์เหล้าเถื่อนในลาว มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเสียชีวิตเพิ่มรายที่ 6 เป็นหญิงชาวออสเตรเลีย เสียชีวิตขณะรักษาตัวในไทย

ย้ายเจ้ากรมยุทธศึกษา ทบ.

ย้ายเจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบก ช่วยปฏิบัติราชการที่กองบัญชาการกองทัพบก หลังถูกร้องทำร้ายร่างกายผู้ใต้บังคับบัญชา พร้อมช่วยเจ้าทุกข์ย้ายหน่วยตามร้องขอ

ไฟไหม้โรงงานพัดลม เผาวอดเสียหายกว่า 50 ล้าน

ไฟไหม้โรงงานผลิตพัดลมรายใหญ่ จ.สมุทรสาคร ระดมรถดับเพลิงระงับเหตุ กว่า 5 ชม. จึงควบคุมไว้ได้ในวงจำกัด เบื้องต้นเสียหายกว่า 50 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

ภรรยาหมอบุญมอบตัว

“ภรรยา-ลูก” หมอบุญ อ้างถูกปลอมลายเซ็น ไม่เคยรู้การกระทำใดๆ

ทนายความภรรยา-ลูก หมอบุญ เผยถูกปลอมลายเซ็นเอกสาร ไม่เคยรับรู้การกระทำใดๆ ของหมอบุญ โดยภรรยาได้หย่าร้างกับหมอบุญ ก่อนปี 66

น้ำผุดเชียงดาว

น้ำใต้ดินผุดท่วมอ่วม “บ้านเรือน-พื้นที่เกษตร” อ.เชียงดาว

มวลน้ำมหาศาลผุดขึ้นจากใต้ดิน เอ่อล้นเข้าท่วมพื้นที่เกษตร และบ้านเรือนประชาชน หลายหมู่บ้าน ใน อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ระดับน้ำบางจุด ท่วมบ้านเกือบถึงหลังคา พื้นที่การเกษตรเสียหายกว่า 400 ไร่

เลือกตั้ง อบจ.

“แสวง” ลงพื้นที่สังเกตการณ์เลือกตั้ง นายก อบจ.อุดรธานี

“เลขาฯ แสวง” ลงพื้นที่ตรวจรับ-มอบอุปกรณ์เลือกตั้ง นายก อบจ.อุดรธานี พร้อมสังเกตการณ์เลือกตั้งพรุ่งนี้ (24 พ.ย.) วอนประชาชนออกมาใช้สิทธิ 8.00-17.00 น.