สตช.18 ก.พ.- PCT แถลงจับกุมคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ตั้งแต่ 1 ม.ค.64 ถึงปัจจุบัน 10,818 คดี จับผู้ต้องหา 10,584 คน รวมมูลค่าเสียหายหลายพันล้านบาท
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.) หรือ ศูนย์ PCT แถลงผลการขับเคลื่อนการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติในห้วงปี 2564-ปัจจุบัน
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวถึงผลดำเนินการที่ผ่านมา แบ่งเป็น มาตรการปราบปราบ มีการจับกุมคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ตั้งแต่ 1 ม.ค.2564 จนถึงปัจจุบัน 10,818 คดี ผู้ต้องหา 10,584 คน รวมมูลค่าความเสียหายหลายพันล้านบาท และได้จัดทำโครงการตามมาตรการเชิงรุกในการป้องกันปราบปรามอาชญากรรม ได้แก่โครงการระบบการรับแจ้งความออนไลน์คดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ผ่านwww.thaipoliceonline.com ที่เปิดให้ประชาชนกรอกข้อมูลลงในระบบการรับแจ้งความ แล้วเจ้าหน้าที่ตำรวจติดต่อกลับนัดหมายล่วงหน้าก่อนเข้าแจ้งความร้องทุกข์ โดยจะมีการแถลงเปิดตัวโครงการอย่างเป็นทางการในวันที่ 28 ก.พ.65 และให้ประชาชนใช้ระบบได้ตั้งแต่ 1 มี.ค.65
การประสานความร่วมมือเพื่อแก้ปัญหาอย่างครบทั้งวงจร ระหว่างประเทศ เช่น แก๊งคอลเซ็นเตอร์มักใช้พื้นที่ในประเทศเพื่อนบ้านเป็นฐานปฏิบัติการ เพื่อให้ยากต่อการติดตามจับกุม เช่นที่ตร.ได้ร่วมจับกุมแก็งคอลเซ็นเตอร์ที่ฝังตัวอยู่ในประเทศกัมพูชา จับกุมผู้ต้องหาจำนวน 23 ราย มูลค่าความเสียหายกว่า 1,000 ล้านบาท นอกจากนี้ ประสานสมาคมธนาคารไทย เพื่ออายัดบัญชี ชั่วคราวทันที ประสานสำนักงาน ปปง.ยับยั้งการทำธุรกรรมไว้ชั่วคราว และอายัดทรัพย์ผู้กระทำความผิด พร้อมกันนี้ ได้ตั้งคณะทำงานเสริมสร้างภูมิคุ้มกันต้านภัยอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เข้าไปบรรยายให้ความรู้เสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับนักเรียน นักศึกษา ที่เป็นเยาวชน ขับเคลื่อนการป้องกันปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโยลี ฝากประชาชนอย่าโอนไว อย่าโอนเงินให้กับคนที่ไม่รู้จัก อย่าเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลทางสื่อสังคมออนไลน์ .-สำนักข่าวไทย