จันทบุรี 4 ก.พ.-รัฐมนตรีพาณิชย์มั่นในใช้ตลาดต้องชมพัฒนาควบคู่ตลาดกลางพลอยนานาชาติ จันทบุรีได้ เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้ชุมชนทำการค้ารูปแบบทันสมัยสากล ย้ำแม้เจอพิษโควิดแต่สร้างรายได้ทั้งอัญมณีและเครื่องประดับไทยแถมยอดส่งออกผลไม้ไทยมากกว่า 250,000 ล้านนบาทในปีที่ผ่านมา
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานเปิดตลาดกลางพลอยนานาชาติจันทบุรี ในงานเทศกาลนานาชาติพลอยและเครื่องประดับจันทบุรี 2021 – 2022 พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่า ในปี 64 ที่ผ่านมา แม้ประเทศไทยจะเจอพิศจากโควิด แต่ไม่ได้ทำให้ภาคการส่งออกกลุ่มสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับไทยลดลงแม้แต่น้อย ซึ่งตัวเลขส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับ ปี 64 สร้างมูลค่าสูงถึง 194,706.08 ล้านบาท หรือเติบโตถึง 29.64% ดังนั้น ในปี 65 ยังมั่นใจว่าโอกาสกลุ่มสินค้าดังกล่าวมีโอกาสเติบโตได้เพิ่มมากขึ้น
ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ได้ให้สัญญากับชุมชนตลาดพลอยที่จังหวัดจันทบุรี โดยชุมชนนี้ประกอบด้วยคนไทยเชื้อสายจีน เวียดนามและคนไทยดั้งเดิม ซึ่งทั้ง 3 กลุ่มได้ร่วมกันพัฒนาศักยภาพจนเป็นจุดศูนย์รวมพลอยของโลกแห่งหนึ่ง จึงเป็นสิ่งที่ต้องสร้างจุดให้มีความเข้มแข็งในระยะยาวและยั่งยืน โดยต้องสร้างให้มีภูมิทัศน์ที่งดงามเป็นระบบระเบียบและดูเป็นอินเตอร์มากขึ้น ไปพร้อมเปิดเวทีให้ผู้ประกอบการรายย่อยเข้ามาค้าขายเพิ่มเติมขึ้น และนำระบบการบริหารจัดการแบบใหม่ที่มีระบบอิเล็กทรอนิกส์ดิจิทัลมาช่วยเสริม และที่สำคัญต้องสร้างมาตรการเกี่ยวกับตัวสินค้าให้ดูสากลและมีคุณค่า ไปพร้อมกับวิธีชุมชนผ่านโครงการตลาดต้องชมที่กรมการค้าภายในดูแลอยู่ควบคู่ไปด้วยกัน เพราะจังหวัดจันทบุรีมีผลไม้ขึ้นชื่อหลากหลาย หากเดินหน้าในแนวทางส่งเสริมไปด้วยกันยิ่งทำให้กิจกรรมด้านการค้าการขายในจังหวัดจะดีขึ้นยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ ในปี 64 ที่ผ่านมาการส่งออกผลไม้สดและแปรรูปสูงถึง 250,162 ล้านบาท ขยายตัว 39% แยกเป็นผลไม้สดมีมูลค่า 158,875 ล้านบาทเป็นบวก +52.39% ส่วนผลไม้แช่เย็นแช่แข็ง 11,597 ล้านบาท ผลไม้แห้ง = 21,049 ล้านบาท ผลไม้แปรรูป/กระป๋อง 58,638 ล้านบาท ซึ่งเป็นทุเรียน 110,000 ล้านบาท และส่วนใหญ่มาจากจันทบุรี ดังนั้น จันทบุรีไม่ได้มีเพียงผลไม้ยังมีอาชีพสำคัญ คือ พลอย ที่เป็นที่รู้จักไปทั่วโลกจะสร้างรายได้เข้าประเทศและรายได้ให้คนในชุมชนเพิ่มขึ้นไม่น้อย ขณะเดียวกันการค้าชายแดนมีความสำคัญ เพราะจันทบุรีแม้ไม่ได้อยู่ชายแดน แต่ใกล้ชายแดนการค้าชายแดนข้ามไปกัมพูชาก็ช่วยกระจายมาถึงจันทบุรีได้เช่นเดียวกัน ซึ่งปี 64 การค้าชายแดนและผ่านแดนของไทยทำเงินเข้าประเทศได้ถึง 1,010,000 ล้านบาท เป็นบวกถึง 36.4% ดังนั้น ถือว่าจันทบุรีเป็นพระเอกในการทำเงินเข้าประเทศจากศักยภาพในด้านต่างๆอีกด้วย.-สำนักข่าวไทย