กรุงเทพฯ 23 ม.ค.- ผบก.อคฝ.รับบิ๊กไบค์ชนหมอกระต่ายเสียชีวิต เป็นตำรวจในสังกัด เจ้าตัวรับผิดอ้างมองไม่เห็น-ขี่มาด้วยความเร็ว ด้าน สน.พญาไท จ่อแจ้งข้อหาเพิ่มอีกหลายข้อหา ย้ำไม่ช่วยเหลือแม้ผู้ก่อเหตุเป็นตำรวจ
ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ตรวจสอบจุดเกิดเหตุหน้าโรงพยาบาลสถาบันโรคไตภูมิราชนครินทร์ ฝั่งขาออก มุ่งหน้าถนนพญาไท อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ พบว่าเป็นทางม้าลาย ช่องทางขวาสุดติดกับเกาะกลางถนน พบร่องรอยรถบิ๊กไบค์ ครูดไถลไปกับพื้นผิวถนน และยังพบหยดเลือดบนขอบทางเท้า เกาะกลางถนนด้วย
พลตำรวจตรีนครินทร์ สุคนธวิท ผู้บังคับการกองบังคับการอารักขาและควบคุมฝูงชน (อคฝ.) ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาของ ส.ต.ต นรวิชญ์ ยอมรับว่าคนที่ขับขี่รถบิ๊กไบค์คันที่เกิดเหตุ เป็นตำรวจในสังกัดกองบังคับการอารักขาและควบคุมฝูงชนจริง หลังเกิดเหตุได้สอบถามทราบว่า หลังเกิดเรื่องเข้าพบพนักงานสอบสวน สน.พญาไท เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ในวันดังกล่าว ส.ต.ต.นรวิชญ์ ขับขี่รถมารับเอกสารที่ กองบัญชาการตำรวจนครบาล แล้วจะไปอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เมื่อจะขับรถผ่านจุดเกิดเหตุพยายามชิดขวา เพราะจุดเกิดเหตุเป็นทางม้าลาย ซึ่งรถคันอื่นได้หยุดให้ทางหมดแล้ว แต่รถของ ส.ต.ต.นรวิชญ์ เปลี่ยนเลนมาทางขวา ทำให้มองไม่เห็น ประกอบกับมาด้วยความเร็ว จึงทำให้ชนแพทย์หญิงวราลัคน์ สุภวัตรจริยากุล หรือหมอกระต่าย เสียหลักล้มลง เจ้าตัวยอมรับว่าทำผิด
เมื่อวานนี้ทางผู้บังคับบัญชา เดินทางไปพบครอบครัวของแพทยหญิงวราลัคน์ ได้พูดคุยในเบื้องต้นแล้วว่า คนขี่รถบิ๊กไบค์คันดังกล่าวเป็นตำรวจ และยอมรับผิดกับสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมด
“นครบาล” ย้ำต้องดำเนินคดีทุกข้อหา
พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผบช.น. เผยว่าตำรวจได้ให้ความสำคัญกับคดีนี้ โดยมอบให้ รอง ผบก.น.1 ซึ่งรับผิดชอบงานสอบสวนไปควบคุมกำกับดูแลคดีด้วยตนเอง ให้ดำเนินคดีในทุกข้อกล่าวหาอย่างเข้มงวด เพื่อให้การดำเนินคดีเป็นไปอย่างยุติธรรมกับผู้เสียชีวิต และเน้นย้ำเพื่อให้ความมั่นใจกับพี่น้องประชาชนว่าไม่ว่าจะเป็น ข้าราชการตำรวจหรือประชาชน หากกระทำความผิดก็ต้องรับโทษตามกฎหมายเช่นเดียวกันทุกกรณี
เตรียมแจ้งข้อหาเพิ่ม ย้ำไม่ช่วยเหลือแม้ผู้ก่อเหตุเป็นตำรวจ
ด้าน พ.ต.อ.บวรภพ สุนทรเรขา ผกก.สน.พญาไท เผยว่าหลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่กู้ภัยทำแผลเบื้องต้นให้ผู้ต้องหาในจุดเกิดเหตุ ก่อนส่งตัวไปรักษาตัวที่ รพ.ตำรวจ จากนั้น ส.ต.ต.นรวิชญ์ เดินทางมามอบตัวและรับทราบข้อกล่าวหาที่ สน.พญาไท โดยพนักงานสอบสวนได้ทำการตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ทันที ซึ่งผลปริมาณแอลกอฮอล์มีค่าเป็นศูนย์ เบื้องต้นจึงแจ้งข้อกล่าวหา “ขับรถโดยประมาทและการกระทำนั้น เป็นเหตุให้เฉี่ยวชนผู้อื่นถึงแก่ความตาย” เพียงข้อหาเดียวก่อน ซึ่งผู้ต้องหารับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา
โดยพนักงานสอบสวนเตรียมแจ้งข้อกล่าวหา ส.ต.ต.นรวิชญ์ เพิ่มได้แก่ข้อหาตาม พ.ร.บ.จราจรทางบกฯ ในข้อหา นำรถไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนมาใช้ในทาง, ขับรถไม่ชิดขอบทางด้านซ้าย และไม่ปฏิบัติตามเครื่องหมายบนพื้นทาง (ไม่หยุดรถให้คนข้าม) และ พ.ร.บ.รถยนต์ฯ ข้อหา ฝ่าฝืนใช้รถที่ไม่ได้เสียภาษีประจำปี
นอกจากนี้ จะส่งคลิปวงจรปิดให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ตรวจสอบความเร็วในขณะขับขี่ว่าใช้ความเร็วเท่าใด ซึ่งหากขับเร็วกว่า 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ก็มีความผิด เกี่ยวกับการใช้ความเร็วในเขตกรุงเทพมหานคร, เมืองพัทยา และเขตเทศบาลทุกจังหวัด ที่รถจักรยานยนต์ให้ใช้ความเร็วไม่เกิน 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง นัดส่งตัวผู้ต้องหาไปยื่นฟ้องต่อพนักงานอัยการในวันที่ 9 มีนาคมนี้ เพราะต้องรอผลตรวจรถบิ๊กไบค์ จากกองบังคับการตำรวจจราจร รวมถึงผลการชันสูตรศพผู้เสียชีวิต
ส่วนประเด็นที่มีหลายคนสงสัยว่า เหตุใดตำรวจจึงปล่อยตัวผู้ต้องหาโดยไม่มีการควบคุมตัว และไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ประกันตัว พ.ต.อ.บวรภพ สุนทรเรขา ผกก.สน.พญาไท ระบุว่าเนื่องจากผู้ต้องหามามอบตัวเอง โดยไม่ได้เป็นการจับกุม ยืนยันทางตำรวจไม่มีการให้การช่วยเหลือผู้ต้องหา พร้อมระบุว่าตนเองรับทราบเหตุการณ์ตั้งแต่ช่วงเกิดเหตุ เนื่องจากประชุมอยู่ไม่ไกลจากจุดเกิดเหตุ ยืนยันเรื่องนี้ไม่เงียบตามที่เป็นข่าวช่วงแรก แต่เนื่องจากไม่มีใครมาสอบถามตนจึงไม่ได้พูด