ตราด 5 ม.ค.- คดีน้องสายฟ้า เด็กชายวัย 6 ขวบ ที่เสียชีวิตจากน้ำมือของพ่อเลี้ยงและแม่แท้ๆ โดยระหว่างแม่และยายจะมาร่วมพิธีศพที่มัสยิดบ้านน้ำเชี่ยว ต.น้ำเชี่ยว อ.แหลมงอบ จ.ตราด หวิดถูกชาวบ้านรุมประชาทัณฑ์ ท่ามกลางเสียงตะโกนด่าทอ จนตำรวจต้องนำตัวกลับขึ้นรถออกไป ด้าน “บิ๊กโจ๊ก” พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร. ลงพื้นที่ลุยสางคดีนี้ด้วยตัวเอง
คืบหน้าทางคดีพลตำรวจโทสุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ลงพื้นที่เพื่อติดตามคดีนี้ด้วยตัวเอง โดยเข้าร่วมรับฟังข้อมูลจากแพทย์ และผู้กำกับ สภ.แหลมงอบ ถึงสาเหตุการเสียชีวิตของเด็ก ก่อนแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนสรุปว่า พ่อเลี้ยงของน้องสายฟ้า ให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือทำร้ายร่างกายเด็กจนเสียชีวิตโดยก่อนเกิดเหตุได้เสพไอซ์ พอจะออกจากบ้านน้องสายฟ้าร้องตาม เกิดความโมโหจึงลงมือทำร้ายร่างกาย โดยจับโยนไปกระแทกกับล้อรถแล้วนำไปนอนในรถจนมาเสียชีวิต แต่ตำรวจที่ทำคดีไม่ปักใจเชื่อ จึงสืบสวนสอบสวนหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม จนได้ข้อมูลว่ามารดาของน้องสายฟ้า น่าจะเกี่ยวข้องกับการตายของลูก จึงเชิญตัวมาสอบเค้น จนยอมรับว่าป็นผู้ลงมือทำร้ายลูก
พร้อมเล่าว่าเมื่อวันที่ 1 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันขึ้นปีใหม่ ประมาณ 7.30 น. ได้ปลุกลูกชายซึ่งนอนอยู่ในรถยนต์คันดังกล่าว พบว่าลูกชายอุจจาระในรถ จึงเกิดความโมโหใช้ไม้แขวนเสื้อตีลูกชายที่ศีรษะและตามร่างกายหลายครั้งจนไม้แขวนเสื้อหัก จากนั้นลูกชายออกไปเล่นนอกบ้านและกลับไปนอนในรถยนต์ตอน 21.00 น. จนถึงเช้าของวันที่ 2 จึงรู้ว่าลูกชายเสียชีวิตแล้ว สาเหตุที่ไม่แจ้งตำรวจ อ้างว่าเพราะความตกใจกลัวและเกรงว่าจะไม่มีคนดูแลลูกสาวอีกคนที่มีอายุเพียง 11 เดือนซึ่งเป็นลูกของตนและนายปัญญา สามีใหม่
ส่วนข้อหาที่พนักงานสอบสอบจะเอาผิดแม่แท้ๆ คือฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ส่วนสาเหตุการเสียชีวิต แพทย์ระบุว่ามาจากสมองบวม จากถูกตีด้วยไม้ทำให้กะโหลกร้าวเป็นเหตุให้เด็กเสียชีวิต สอดคล้องกับคำรับสารภาพของแม่แท้ๆ ที่ให้การว่าใช้ไม้แขวนเสื้อซึ่งทำด้วยไม้และใช้ไม้หน้าสามตีลูก สอดรับกับคำให้การของพยานบุคคลที่เห็นเหตุการณ์.-สำนักข่าวไทย