พัทลุง 24 พ.ย.- เจ้าของควายน้ำทะเลน้อยรอยต่อ 3 จังหวัด เร่งต้อนควายกว่า 3,000 ตัว ขึ้นที่สูง หลังอุตุฯ เตือนภาคใต้ พื้นที่เสี่ยงจะเกิดน้ำหลากล้นตลิ่ง และดินถล่มถึง 25 พฤศจิกายนนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดพัทลุงว่า จากการที่กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง ติดตามสภาวะอากาศ และพิจารณาปัจจัยเสี่ยง ประกอบกับกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ ประเมินและวิเคราะห์สถานการณ์น้ำจากฝนคาดการณ์ของกรมอุตุนิยมวิทยา ให้เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงน้ำหลาก น้ำล้นอ่างเก็บน้ำ น้ำล้นตลิ่ง และดินถล่ม ในระหว่างวันที่ 23-25 พฤศจิกายนนี้ พื้นที่ภาคใต้ช่วงนี้ย่างเข้าสู่ช่วงลมมรสุม และฝั่งตะวันออกจะมีฝนตกหนัก
จากสถานการณ์ดังกล่าวทางจังหวัดพัทลุง จึงสั่งการให้ทุกอำเภอ เฝ้าระวังน้ำหลาก ดินถล่ม ในพื้นที่เสี่ยง เฝ้าระวังอ่างเก็บน้ำขนาดกลางที่มีปริมาณน้ำมากกว่าร้อยละ 80 และมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น เสี่ยงน้ำล้นกระทบพื้นที่บริเวณท้ายอ่างเก็บน้ำ ตลอด 24 ชั่วโมง และพื้นที่จุดเสียงที่เคยเกิดท่วมอยู่เป็นประจำ
ผู้สื่อข่าวจึงไปตรวจสอบ พื้นที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลน้อย อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง ตำบลบ้านขาว อำเภอระโนด จังหวัดสงขลา และตำบลเคร็ง อำเภอชะอวด จังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำ และมีชาวบ้านยึดอาชีพเลี้ยงควายน้ำรวมแล้วกว่า 3,000 ตัว ขณะนี้เร่งต้อนควายน้ำที่ปล่อยเลี้ยงในพื้นที่ป่าพรุควนขี้เสี้ยน และทุ่งหญ้าคลองนางเรียม มาไว้ในพื้นที่ปลอดภัยเพื่อรับมือน้ำหลากท่วม
ซึ่งปีที่ผ่านมาในช่วงน้ำหลากท่วมพื้นที่ป่าพรุและทุ่งหญ้าที่เลี้ยงควายน้ำ ทำให้ทุกปีน้ำที่ท่วมนานและสูง ทำให้ควายที่เจ้าของไม่ได้ต้อนออกมากจากป่าพรุ จมน้ำตายจำนวนมาก โดยเฉพาะลูกควายตัวเล็กและควายที่มีอายุมาก ทำให้ในปีนี้เจ้าของควายเริ่มทยอยต้อนควายขึ้นมาไว้ที่สูงเพื่อความปลอดภัยล่วงหน้า สำหรับทุ่งหญ้าในเขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลน้อยพัทลุง ถือเป็นเเหล่งเลี้ยงควายสร้างรายได้ของชาวบ้านในพื้นที่มาอย่างช้านาน โดยมีควายที่ชาวบ้านเลี้ยงปล่อยทุ่งไม่ต่ำกว่า 3,000 ตัว.-สำนักข่าวไทย