ทำเนียบ 23 พ.ย. – โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยนายกฯ แจงเพิ่มสิทธิบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 15 ล้านคน เป็นการเพิ่มความช่วยเหลือ ไม่ได้หมายความว่าคนรายได้น้อยจะหมดไป ระบุการทำบัตรฯ เพื่อหาทางให้ประชาชนใช้ชีวิตอย่างพอเพียง
นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ชี้แจงแทน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กรณีการเพิ่มสิทธิลงทะเบียนสวัสดิการแห่งรัฐ 15 ล้านคน ทำให้ถูกมองว่า “ผู้มีรายได้น้อย” เพิ่มขึ้นหรือไม่ ว่า เป็นการทำเป็นระยะ ตามงบประมาณ คนที่เข้าไม่ถึงในระยะแรกยังมีจำนวนอยู่มาก และกรอบวงเงินกิจกรรมช่วยเหลือมากขึ้น จึงต้องปรับเพิ่มต่อเนื่องและดำเนินการต่อไป
“ไม่ได้หมายความว่าคนรายได้น้อยจะหมดไป หากเราไม่ได้ปรับโครงสร้างพัฒนาการประกอบอาชีพทุกประเภทตามนโยบาย การแก้ปัญหาความยากจน รายประเทศ รายครัวเรือน อย่างยังยืนต่อไป การทำบัตรเป็นเพียงการ หาทางให้ดำรงชีวิตอยู่ในลักษณะพอเพียงเท่านั้น” นายธนกร กล่าว
ส่วนกรณีที่มีกลุ่มนักดนตรีมายื่นหนังสือ และมีการปิดถนนสกัดรอบทำเนียบรัฐบาล ทำให้ถูกตั้งคำถามว่ารัฐบาลมีกำแพง ไม่รับฟังปัญหาหรือไม่ นายธนกร กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีรับทราบปัญหา และสั่งให้ ศบค. เร่งพิจารณามาตรการที่เหมาะสม และผู้ประกอบการก็ต้องร่วมรับมือร่วมรับผิดชอบ ป้องกันการแพร่ระบาด การฉีดวัคซีน และเร่งขึ้นทะเบียนสถานประกอบการให้เร็วขึ้น
สำหรับกรณีที่ปิดสถานนีรถไฟหัวลำโพง ที่จะให้ยกเลิกการเดินรถถาวรนั้น นายธนกร กล่าว่า เรื่องนี้นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่าได้หารือ และให้แนวทางกระทรวงคมนาคมไปแล้วว่าต้องใช้พื้นที่เกิดมูลค่าและประโยชน์สูงสุดทั้งในส่วนของพิพิธภัณฑ์และอื่น ๆ พร้อมให้รับฟังความคิดเห็นของประชาขนอย่างรอบด้าน
นายธนกร ยังกล่าวถึงการส่งตัวผู้ลี้ภัยทางการเมืองกลับไปยังประเทศกัมพูชา ว่า เป็นหลักการด้านต่างประเทศอยู่แล้ว และต้องคำนึงถึงกฎหมายไทย กระบวนการยุติธรรมของไทย ซึ่งมีการดำเนินการในลักษณะนี้หลายประเทศ ที่ไทยจะต้องไม่เสียประโยชน์ใด ๆ. สำนักข่าวไทย