กรุงเทพฯ 18 พ.ย.- บางจากฯคาดผลดำเนินงานไตรมาส 4 /63 ขยับดีขึ้น หลังคลายล็อกดาวน์เปิดเมือง กลั่นเต็มกำลัง หนุนไม่ลดส่วนผสมปาล์มในดีเซล เพราะคาดว่าราคาแพงระยะสั้น ชี้ราคาน้ำมันดิบทรงตัว เหตุการระบาดโควิด-19 ในยุโรปยังกดดันดีมานด์
นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ไตรมาส 4 /64 กิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ผ่อนคลายจากการเข้มงวดป้องกันโควิด-19 ประกอบกับการเปิดประเทศ รับนักท่องเที่ยว จึงทำให้ ยอดใช้น้ำมันของประเทศ ขยับดีขึ้น และมีผลดีต่อยอดขายของธุรกิจตลาด ไม่ว่าจะเป็นยอดขายน้ำมัน ยอดขายเครื่องดื่มของ ร้าน มีร้านกาแฟอินทนิล ในขณะที่ ค่าการกลั่นทรงตัวระดับสูง โรงกลั่นบางจากฯ เดินเต็มกำลังกลั่นที่ 1.2 แสนบาร์เรล/วัน สูงกว่า ไตรมาส 3/64
“ภาพรวมของการดำเนินธุรกิจแล้ว จากเศรษฐกิจไทย และโลกฟื้นตัว ก็ทำให้ ผลดำเนินการไตรมาส 4 /64 จะดีกว่าไตรมาส 3 /64 ประกอบกับ ราคาก๊าซธรรมชาติเหลวที่ยังสูงอยู่ ก็ทำให้โรงไฟฟ้าหลายแห่ง มาใช้นมันทดแทน จึงทำให้ ราคาน้ำมันสูงและค่าการกลั่นจึงออกมาดี”นายชัยวัฒน์ กล่าว
นายชัยวัฒน์ ยังกล่าวว่า ราคาน้ำมันดิบตลาดโลกคงจะทรงตัวในระดับปัจจุบันไปจนถึง ไตรมาส 1/65 ที่มองว่า ราคาไม่พุ่งขึ้นอีก ก็เนื่องจากช่วงหน้าหนาวมีความเสี่ยงที่ โรคโควิด-19 จะกลับมาระบาดเพิ่มขึ้น จะเห็นได้ว่า ขณะนี้ ไม่ว่าจะเป็นเกาหลีใต้ ยุโรป กลับมาระบาดระลอกใหม่ ซึ่งหากมีการล็อกดาวน์อีก ก็จะกดดันความต้องการใช้น้ำมันให้ชะลอตัว ประกอบกับ จากราคาน้ำมันที่สูง หลายประเทศ เช่น สหรัฐและจีน กำลังพิจารณามาตารการระบายน้ำมันสำรองทางยุทธศาสตร์ ( SPR ) ก็จะมีผลทำให้ราคาน้ำมันปรับตัวลดลงได้
ส่วนการจัดการราคาน้ำมันดีเซลในไทยนั้น นายชัยวัฒน์ กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับรัฐบาลจะบริหารอย่างไร โดยในส่วนของการผสมปาล์มน้ำมัน หรือไบโอดีเซลนั้น หากลดส่วนผสมก็ต้องดูภาพรวมว่าเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมของประเทศ แน่ชัดหรือไม่ เพราะ ปาล์มผลิตในไทยร้อยเปอร์เซนต์ แต่ น้ำมันดิบนำเข้า 80-90 เปอร์เซนต์ ในขณะเดียวกัน ราคาปาล์มที่สูงมากอาจะเป็นเรื่องชั่วคราว เป็นผลจากโควิด-19 ทำให้เกิดการขาดแคลนแรงงานสวนปาล์มของมาเลเซีย แต่ในขณะนี้ การควบคุมโรคได้ผลดี แรงงงานก็อาจจะกลับไปทำงาน และในที่สุดราคาปาล์มก็จะปรับลดลง
นายชัยวัฒน์ กล่าวว่า ยังไม่ทราบเรื่องกระทรวงพลังงานเตรียมปรับเพิ่มสำรองน้ำมันดิบจาก 4 เปอร์เซนต์ เป็น 5 เปอร์เซนต์ และการเพิ่มสำรองก๊าซหุ้งต้ม(แอลพีจี)จาก 1เปอร์เซนต์ เป็น2 เปอร์เซนต์ และให้มีผล วันที่ 1 ม.ค.65 เรื่องนี้ หากปรับขึ้นจริงก็จะมีผลต่อต้นทุนให้เพิ่มขึ้น และสำรองที่เพิ่มขึ้นก็ต้องดูให้เหมาะสมกับช่วงเวลา และราคาของผลิตภัณฑ์
นายลวรณ แสงสนิท อธิบดีกรมสรรพสามิต กล่าวว่า การดูแลราคาน้ำมันนั้น ในขณะนี้ยังอยู่ในวิสัยของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงสามารถดูแลได้ในกรอบดีเซลไม่เกิน 30 บาท/ลิตร จึงยังไม่ต้องใช้มาตรการลดภาษีน้ำมันแต่อย่างใด
ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกวานนี้ ลดลงกว่า 2 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสต่ำกว่า 80 เหรียญต่อบาร์เรล บมจ.ไทยออยล์ รายงานว่าเป็นผลมาจากกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และสำนักงานพลังงานสากล (IEA) แสดงความกังวลว่าตลาดน้ำมันทั่วโลกอาจเผชิญกับสภาวะอุปทานส่วนเกินภายในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า หลัง จำนวนยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายวันในยุโรปยังคงปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ในยุโรปคิดเป็นมากกว่าร้อยละ 60 ของจำนวนผู้ติดเชื้อทั่วโลก ส่งผลกระทบการฟื้นตัวของอุปสงค์การใช้น้ำมัน รัฐบาลหลายประเทศพิจารณาที่จะกลับมาใช้มาตรการป้องกันอย่างเข้มงวดอีกครั้งในการจำกัดการเดินทาง โดยเฉพาะผู้ที่ยังไม่ได้รับวัคซีนโควิด-19. –สำนักข่าวไทย