กทม.3 พ.ย.- ผบช.ก. มั่นใจพยานหลักฐานเอาผิด”ผกก.โจ้”โทษสูงสุดประหารชีวิต เผย เจ้าตัวไม่ให้ความร่วมมือ แต่ไม่เป็นปัญหาพร้อมส่งสำนวนคดี ส่วนปมรถหรูพบพิรุธเพียบ แถมมีนำเข้าจากยุโรป
พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. พร้อม พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รอง ผบช.ก. พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป. พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป.ประชุมสรุปสำนวนคดี พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล อดีต ผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์ หรือ ผกก.โจ้ และลูกน้องรวม 7 คน ซ้อมทรมานนายจิระพงศ์ หรือมาวิน ธนะพัฒน์ ผู้ต้องหาคดียาเสพติดจนเสียชีวิต โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง
พล.ต.ท.จิรภพ กล่าวว่า ในส่วนของสำนวนคดีซ้อมทารุณกรรมผู้ต้องหาจนถึงแก่ชีวิต สำนวนคดีเสร็จเป็นที่เรียบร้อย โดยจะส่งสำนวนช่วงบ่ายวันนี้ จากพยานหลักฐานที่มีอยู่ มั่นใจสามารถเอาผิดกลุ่มผู้ต้องในข้อหา ฆ่าผู้อื่นด้วยการทารุณกรรม ซึ่งมีอัตราโทษสูงสุดคือประหารชีวิตได้ หลังจากนี้คงต้องรอผลการพิจารณาในชั้นศาล ยืนยันว่า การทำคดีที่ผ่านมาไม่มีการกดดันจากฝ่ายใด ดำเนินการตามข้อเท็จจริง รวมถึงหลักฐานที่มีอยู่ค่อนข้างครบถ้วนเอาผิดถึงที่สุดได้แน่นอน
นอกจากนี้ยังมีการแจ้งข้อหาเพิ่มเติมกับกลุ่มผู้ต้องหา ในความผิดตามมาตรา 172 ซึ่งมีการเข้าแจ้งข้อหาดังกล่าวแก่กลุ่มผู้ต้องหาในเรือนจำจนครบถ้วน มีเฉพาะ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ หรือ ผกก.โจ้ ที่แสดงท่าทีไม่พอใจและไม่ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ในการรับทราบข้อกล่าวหา ก่อนจะเดินกลับไปโดยไม่ได้บอกเหตุผล จึงต้องดำเนินการแจ้งข้อหาผ่านเจ้าหน้าที่เรือนจำ ซึ่งไม่ถือเป็นปัญหาหรือข้อกังวลเพราะถือว่าได้แจ้งให้รับทราบแล้ว รวมถึงยังได้ทำบันทึกรายละเอียดพฤติกรรมดังกล่าวของ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ ลงในเอกสารสำนวน ถือเป็นการปฏิบัติตามขั้นตอนกฎหมายครบถ้วน
ผบช.ก. กล่าวว่า ส่วนเรื่องตรวจสอบทรัพย์สินและกรณีจับรถหรูเรียกรับเงินรางวัลนำจับ มีความคืบหน้าพอสมควร จนถึงขณะนี้พบรถหรูที่ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ จับกุม 410 คัน ในจำนวนนี้พบเป็นรถที่นำเข้ามาจากประเทศเพื่อนบ้าน 270 คัน และนำเข้าจากประเทศแถบยุโรป 56 คัน ที่เหลืออยู่ระหว่างตรวจสอบแหล่งที่ไปที่มา
นอกจากนี้ยังพบพิรุธหลายอย่าง อาทิ มีการทำบันทึกจับกุมก่อนที่รถจะเข้ามาภายในประเทศ โดยเฉพาะรถที่มีการแจ้งหายในประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งในขั้นตอนการตรวจสอบหลังจากนี้ อาจต้องใช้เวลาอยู่บ้าง เนื่องจากต้องมีการประวานข้อมูลกับทางประเทศต้นทางทั้งแถบประเทศเพื่อนบ้านและฝั่งยุโรป
เมื่อถามว่ามีบุคคลอื่น คนดัง หรือ เจ้าหน้าที่รัฐ เข้าไปเกี่ยวข้องกับกรณีดังกล่าวด้วยหรือไม่นั้น พล.ต.ท.จิรภพ กล่าวว่า อยู่ระหว่างขยายผลและสอบปากคำพยานบุคคลต่างๆให้แน่ชัด โดยเฉพาะขั้นตอนการทำบันทึกจับกุมรถหรู ซึ่งต้องดูว่ามีรายชื่อของบุคคลใดเกี่ยวข้องบ้าง และ ยืนยันว่าหากพบหลักฐานการกระทำผิดเชื่อมโยงถึงใคร จะต้องดำเนินคดีไม่มีข้อยกเว้น สุดท้ายนี้ขอยืนยันว่า ที่ผ่านมาทางเจ้าหน้าที่ทำอย่างเต็ม ตรงไปตรงมา ไม่มีการช่วยเหลือแต่อย่างใด.-สำนักข่าวไทย