ทำเนียบ 19 ต.ค.-รมว.ดีอีเอส เร่งตรวจสอบกรณีเงินหายจากบัตร และเร่งหามาตรการป้องกันการซื้อขายของออนไลน์ เผยนายกฯ กำชับเร่งสืบสวนหาผู้ทำผิดมาดำเนินคดี การทำธุรกรรมออนไลน์ต้องมีมาตรฐานตรวจสอบได้
นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) กล่าวชี้แจงถึงกรณีบัญชีธนาคารหลายแห่งถูกแฮกพร้อมกันเป็นจำนวนมาก ว่าไม่ใช่เป็นการถูกแฮกบัญชี เพราะระบบการโอนเงินจ่ายเงินของธนาคารยังมั่นคง ปลอดภัย แต่สิ่งเกิดขึ้นคือการนำเอาข้อมูลบัตรเครดิตและบัตรเดบิตไปใช้โดยเจ้าของบัตรไม่รู้ ทั้งนี้ตำรวจกำลังสืบสวนสอบสวนว่าคนร้ายนำข้อมูลจากแพลตฟอร์มใดแต่ถือว่ามีความผิดต้องนำตัวดำเนินคดี
ทั้งนี้ เห็นว่า น่าจะมีผู้กระทำความผิดมีทั้งในและต่างประเทศ เพราะปัจจุบันมีการใช้จ่ายเงินผ่านระบบออนไลน์มากขึ้น โดย พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กำชับนำผู้กระทำความผิดมาลงโทษให้ได้ และเน้นย้ำต้องกำกับดูแลการทำธุรกิจ และการทำธุรกรรมผ่านออนไลน์ ต้องมีมาตรฐานตรวจสอบได้ มีระบบการรับ-ชำระเงิน ที่น่าเชื่อถือ เช่นต้องมีการยืนยันรหัสโอทีพี ในการจ่ายเงิน หากไม่มีการส่งรหัสจะต้องมีการแจ้งเตือนอื่นๆ พร้อมขอฝากเตือนไปยังประชาชนหากจะใช้บัตรเครดิต บัตรเดบิตของธนาคารใด ให้ตรวจสอบระบบการป้องกันว่าเพียงพอหรือไม่
ส่วนจะทำอย่างไรให้ประชาชนรู้เท่าทันกับเรื่องที่เกิดขึ้น นายชัยวุฒิ ย้ำว่าตนเองได้หารือร่วมกับธนาคารแห่งประเทศไทยในการปรับปรุงช่องว่างโดยเฉพาะการโอนเงินจำนวนน้อย ที่มองว่าไม่สำคัญ แต่อาจเป็นช่องว่าให้มิจฉาชีพหาประโยชน์จากตรงนี้ ดังนั้นจะต้องมีการตรวจสอบโดยเฉพาะการโอนเงินหลายครั้งจะต้องมีการปิดกั้นด้วยเพราะถือเป็นความผิดปกติ
สำหรับการปรับปรุงกฎหมายเพื่อคุ้มครองประชาชนนั้น นายชัยวุฒิ ระบุว่า ขณะนี้ร่างพระราชกฤษฎีกา กำกับควบคุมแพลตฟอร์มดิจิทัลธุรกิจออนไลน์ได้ยกร่างเสร็จแล้ว แต่รอเข้าที่ประชุม ครม.พิจารณา ซึ่งหลักการคืออยากให้แพลตฟอร์มดิจิทัลที่ทำธุรกิจออนไลน์กับประชาชนต้องมาจดแจ้งการการประกอบธุรกิจจะได้กำกับกับดูแลได้ รวมถึงจะมีมาตรการเบื้องต้นที่ธุรกิจต้องถูกกฎหมาย มีระบบการยืนยันตัวตนของผู้ซื้อขาย มีระบบการชำระเงินเชื่อถือได้ นอกจากนี้แพลตฟอร์มออนไลน์ของต่างประเทศที่จะทำธุรกิจกับคนไทยนั้น จะต้องมีตัวแทนคนไทยอยู่ด้วย ในการที่รับผิดชอบในเรื่องต่างๆ หากประชาชนได้รับความเดือดร้อน และมีการร้องเรียน. สำนักข่าวไทย