สธ.14 ต.ค.-สธ.ย้ำการพิจารณาแนะนำฉีดวัคซีนโควิด เน้นประสิทธิภาพ เหมาะสมสถานการณ์ และความปลอดภัยเป็นหลัก ส่วนการปรับสูตรฉีดวัคซีนโควิดแบบไขว้ “แอสตราฯ-ไฟเซอร์” รอ ศบค. พิจารณาและประกาศอย่างเป็นทางการ
นพ.เฉวตสรร นามวาท ผู้อำนวยการกองควบคุมโรคและภัยสุขภาพในภาวะฉุกเฉิน กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงกรณีวัคซีนซิโนแวค หลังมีวัคซีนตัวอื่นจำนวนมากแล้ว ยังจำเป็นต้องใช้อีกหรือไม่ ว่า การฉีดซิโนแวคเป็นเข็มที่ 1 และกระตุ้นด้วยแอสตราฯ เข็ม 2 เพราะกระตุ้นภูมิคุ้มกันได้สูงและในเวลารวดเร็ว เนื่องจากหากเป็นแอสตราฯ 2 เข็มต้องรอ 3 เดือน ซึ่งการฉีดที่ยังมีซิโนแวคอยู่ ก็ยังใช้สูตรนี้เป็นสูตรหลักต่อไป
อย่างไรก็ตาม เมื่อฉีดสูตรไขว้แล้วจำเป็นต้องกระตุ้นอีกหรือไม่ โดยหลักหากเวลาผ่านไป 3-6 เดือนภูมิอาจค่อยๆ ลดลง ซึ่งจะมีการพิจารณาอีกครั้ง ปัจจุบันยังไม่ต้องกังวล สำหรับคนฉีดซิโนแวค 2 เข็มไปแล้วเมื่อเดือน มี.ค.-เม.ย.ที่ผ่านมา กระทรวงสาธารณสุขจะนับเวลา 6 เดือนจึงให้มาฉีดกระตุ้น
ส่วนกรณีที่อนุกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคพิจารณาวัคซีนไขว้สูตรใหม่ ระหว่างแอสตราเซเนกา กับไฟเซอร์นั้น นพ.เฉวตสรร กล่าวว่า ทางวิชาการมีความมั่นใจ แต่ขอให้รอ ศบค.ประกาศว่าจะใช้สูตรไหน แล้วจะมีหนังสือสั่งการต่อไป ซึ่งการพิจารณาเป็นไปตามหลักวิชาการ ความเหมาะสมในการบริหารจัดการให้เกิดภูมิคุ้มกัน และให้เกิดประโยชน์แก่ประเทศสูงสุด ซึ่งที่ผ่านมาจะมีการกำหนดเป็นสูตรหลักสูตรหนึ่ง และสูตรที่สามารถใช้ได้กรณีมีความจำเป็น เนื่องจากประด็นทางสุขภาพ และเงื่อนไขทางปฏิบัติ เช่นประเทศที่จะเดินทาง ก็อาจจะขยายได้ กรณีพื้นที่ภาคใต้ซึ่งมีการจัดส่งไฟเซอร์ลงไป ก็จะใช้ฉีดเป็นไฟเซอร์ 2 เข็ม เพื่อรองรับสายพันธุ์ที่ระบาดด้วย หากเป็นแอสตราเซเนกาตามด้วยไฟเซอร์ทางวิชาการก็ทำได้ ในทางปฏิบัติคงมีชี้แจงลงไปในพื้นที่ อย่างไรก็ตามขอให้มั่นใจในทุกสูตรที่สามารถใช้ได้ ไม่ควรรอ เพราะสถานการณ์บางทีการรออาจจะเกิดสายพันธุ์ที่แตกต่างจนมีความรุนแรง และอาจเสียประโยชน์ได้
สำหรับการฉีดวัคซีนนักเรียนที่ผ่านมมา ในระบบที่รายงานเข้ามายังไม่มีอะไรน่ากังวล ระบบรายงานอาการไม่พึงประสงค์ต้องมีการตรวจสอบเก็บข้อมูลในพื้นที่ บางทีไม่ได้เร็ววันต่อวัน ทยอยมา เท่าที่ฉีดมายังไม่มีข้อกังวล ส่วนเข็ม 2 ในกลุ่มนักเรียนชายนั้น คณะอนุกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคด้วยวัคซีนจะประชุมน่าจะจะมีข้อตัดสินวันที่ 20 ต.ค.นี้ โดยจะพิจารณาข้อมูลที่มีการรวบรวมการฉีดเข็ม 1 ในเด็กชาย เป็นข้อสงสัยสอบถามในพื้นที่ ซึ่งข้อสรุปต้องออกมาก่อนวันนัดฉีดเข็ม 2 แน่นอน.-สำนักข่าวไทย