ภูมิภาค 1 ต.ค. – สถานการณ์น้ำหลายพื้นที่ยังน่าห่วง ต้องเตือนประชาชนให้เฝ้าระวัง หลังกระแสน้ำแรงทำพนังกั้นน้ำพังทลายและขยายวงกว้างไหลเข้าท่วมสถานที่ราชการ
ต้านไม่ไหวทะลักท่วมสถานที่ราชการ
สถานการณ์น้ำในคลองชัยนาท-ป่าสัก บริเวณ ต.เขาพระงาม ต.โคกกระเทียม อ.เมืองลพบุรี ขณะนี้ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลกระทบต่อแนวกำแพงดินกั้นน้ำที่ไม่สามารถต้านทานกระแสน้ำได้ น้ำได้กัดเซาะริมตลิ่งสองข้างบานประตูปิดเปิดน้ำของสำนักงานชลประทานที่ 10 โคกกระเทียม พังทลาย ไม่สามารถปิดอุดได้ ต้องปล่อยให้มวลน้ำเอ่อท่วมสำนักงานชลประทานที่ 10 บางส่วนแล้ว เจ้าหน้าที่ได้เร่งขนย้ายยานพาหนะออกมาจอดไว้ในที่สูง และระดมสรรพกำลังเร่งเสริมแนวกันดิน
ด้านหลังสำนักงานชลประทาน ที่น้ำจาก ต.เขาพระงาม ไหลหลากลงเข้ามาท่วมซ้ำเติม ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้เร่งสร้างแนวกำแพงดินปิดกั้นรอบสำนักงาน ในขณะที่มวลน้ำยังไม่มีท่าทีจะลดลง กลับเพิ่มสูงขึ้นจนล้นตลิ่งคลองชัยนาท-ป่าสัก ตลอดแนว ถนนสายพหลโยธิน ตั้งแต่แยกโกกระเทียม ไปถึงสุดเขต ต.เขาพระงาม น้ำท่วมขัง รถเล็กไม่สามารถผ่านเส้นทางได้ เทศบาลตำบลป่าตาลเร่งทำการป้องกันโดยนำดินถมเสริมความแข็งแรงของกำแพงคอนกรีตกั้นน้ำอีกชั้น เนื่องจากมีน้ำซึมลอดเข้าเอ่อท่วมถนนเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว และกระแสน้ำไหลแรง ทำให้กำแพงดินบางช่วงต้านแรงน้ำไม่ไหว เอาไม่อยู่ พนังกั้นน้ำพังทลายลง และขยายวงกว้าง น้ำไหลบ่าเข้าท่วมสถานที่ราชการหลายแห่ง รวมถึงศาลเยาวชนและครอบครัว ซึ่งตั้งอยู่ริมคลองชัยนาท-ป่าสัก และบ้านเรือนประชาชนบริเวณดังกล่าวหลายหลังคาเรือน ซึ่งตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมาได้เร่งขนของหนีน้ำกันอย่างจ้าละหวั่น มีเจ้าหน้าที่ทางเทศบาลตำบล เจ้าหน้าที่กู้ภัย เจ้าหน้าที่ทหาร ต่างเร่งเข้าช่วยเหลือชาวบ้าน และประชาสัมพันธ์ให้ชาวบ้านเร่งขนย้ายทรัพย์สินขึ้นบนที่สูง ป้องกันความเสียหาย คาดว่าในวันนี้มวลน้ำจะมีเพิ่มมากขึ้น
ลุ้นระทึกล้นพนังกั้นน้ำเจ้าพระยา
เจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองอ่างทอง และกำลังชมรมสามล้อแดงรับจ้าง กว่า 50 คน เร่งช่วยกันเสริมแนวกระสอบทราย หลังพนังคอนกรีนตกั้นน้ำริมแม่น้ำเจ้าพระยาภายในชุมชนบ้านรอ ต.บางแก้ว อ.เมือง จ.อ่างทอง หลังระดับน้ำเพิ่มสูงต่อเนื่องจนเหลืออีกเพียง 5 เซนติเมตร ก็จะล้นพนังกั้นน้ำบริเวณดังกล่าวแล้ว โดยจุดดังกล่าวเป็นจุดที่อยู่มีความเสี่ยงสูง หากไม่สามารถต้านทานน้ำได้น้ำจะทะลักเข้าท่วมศูนย์ราชการฯ ที่มีหน่วยงานราชการ รวมถึงชุมชนบ้านรอ และชุมชนบางแก้ว ที่มีบ้านเรือนประชาชนกว่า 1,000 ครัวเรือน เจ้าหน้าที่ต้องเร่งทำงานกันอย่างหนัก เพื่อให้ทันดับระดับที่เพิ่มสูงต่อเนื่อง
นอกจากนี้ยังนำแท่งแบริเออร์ตั้งแนวกั้นที่สองบริเวณถนนข้างโรงเรียนอนุบาลวัดอ่างทอง เพื่อเตียมพร้อมหากไม่สามารถทานแรงน้ำบริเวณจุดนี้ได้
นายสมนึก สุถาวิมล เลขานุการนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองอ่างทอง บอกว่า ตอนนี้ระดับน้ำใกล้เคียงกับเมื่อปี 2554 แต่ที่หนักกว่าคือน้ำไม่สามารถระบายลงทุ่งได้ โดยบริเวณดังกล่าวเป็นจุดเสี่ยงที่มีศูนย์ราชการ ซึ่งระดับน้ำเหลือเพียง 5 ชั่วโมง จะล้นแล้ว จึงต้องเพิ่มแนวกระสอบทรายเพื่อเป็นการป้องกัน ฝากเตือนประชาชนทั้งสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ทั้งในเขตเทศบาลเมืองอ่างทอง และนอกเขต ให้ยกสิ่งของหนีน้ำไว้ก่อน โดยพื้นที่ จ.อ่างทอง มีพื้นที่ถูกน้ำท่วมไปแล้ว 3 อำเภอคือ อ.เมือง อ.ป่าโมก และ อ.วิเศษชัยชาญ
ยกแผงเหล็กบังเกอร์ป้องกันวัดพนัญเชิงฯ
ที่วัดพนัญเชิงวรวิหาร กำลังทหารจากกองพันทหารม้าที่ 11 กรมทหารม้าที่ 4 รักษาพระองค์ วม กอ.รมน.จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จำนวน 50 นาย พร้อมด้วยพระ เณร กว่า 50 รูป และเจ้าหน้าที่ของวัด ช่วยกันยกแผงเหล็ก หรือแผ่นบังเกอร์ ป้องกันน้ำท่วมแบบสำเร็จรูป โดยแผ่นบังเกอร์มีความสูง 2.50 เมตร กว้าง 1.20 เมตร ระยะทาง 700 เมตร
พระเมธีวราภรณ์ รองเจ้าคณะจังหวัดพระนครศรีอยุธยา รองเจ้าอาวาสวัดพนัญเชิงวรวิหาร เผยว่า ทางวัดได้ขอกำลังจากทหารและนำพระภิกษุ สามเณร ทั้งวัดมาช่วยกันยกแผงเหล็กบังเกอร์ จากนั้นจะนำผ้าใบมาคลุมและนำกระสอบทรายมาวางทับบริเวณรอยต่อ เพื่อป้องกันน้ำเข้าบริเวณวัด
แนวกั้นน้ำแยกคลองชัยนาทป่าสักฯ พัง
สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสระบุรี แจ้งว่าด้วยมวลน้ำและระดับน้ำคลองชัยนาท-ป่าสักฯ มีระดับสูงขึ้น ทำให้น้ำกัดเซาะแนวบริเวณถนนช่วงต้นคลอง 23 R ที่แยกจากคลองชัยนาท-ป่าสักฯ ขาดพังทลาย ทำให้น้ำไหลทะลักเข้าท่วมพื้นที่หมู่ 5 ต.สร่างโศก ระดับน้ำสูงประมาณ 50 เซนติเมตร-1 เมตร มวลน้ำนี้จะไหลลง ต.ตลาดน้อย ต.โคกใหญ่ และ ต.พรเทพ อ.บ้านหมอ ต.หนองโดน อ.หนองโดน และ อ.ดอนพุด จ.สระบุรี อีกทั้งระดับน้ำในคลองระพีพัฒน์ มีปริมาณเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
โนนสูงเดือดร้อน 1,300 ครัวเรือน
พื้นที่ อ.โนนสูง จ.นครราชสีมา ช่วงบ่ายวันนี้ยังคงวิกฤติหนัก มีมวลน้ำจำนวนมากไหลมาจากอ่างเก็บน้ำลำเชียงไกรตอนล่าง อ.โนนไทย หลากท่วมหลายหมู่บ้านใน ต.ธารปราสาท โดยเฉพาะที่บ้านปราสาทเหนือ มีมวลน้ำโอบล้อมทั้งหมู่บ้านกว่า 150 หลังคาเรือน ถนนทางเข้า-ออกหมู่บ้าน น้ำท่วมสูง 50-80 เซนติเมตร สัญจรยากลำบาก ต้องใช้รถยกสูงลุยฝ่ากระแสน้ำ
ปริมาณน้ำไหลจำนวนมากหลากเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน ระดับน้ำท่วมสูง 1 เมตร ต้องอพยพมาพักอาศัยที่ศูนย์พักพิงชั่วคราวภายใน องค์การบริหารส่วนตำบลธารปราสาท ทั้งนี้ สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ อ.โนนสูง พบว่ามีชาวบ้านได้รับผลกระทบ 12 ตำบล 52 หมู่บ้าน เดือดร้อน 1,362 ครัวเรือน
น้ำท่วมมิตรภาพ 4 กม. รถติดยาว
ในช่วงเช้าปริมาณน้ำจากลำเชียงไกร ไหลไปยังพื้นที่ อ.คง ทำให้ปริมาณน้ำหลากเข้าท่วมถนนมิตรภาพ ทางหลวงหมายเลข 2 ตั้งแต่แยกบ้านตาชู ไปจนถึงแยกบ้านวัด อ.คง จ.นครราชสีมา ระยะทางประมาณ 4 กิโลเมตร ระดับน้ำท่วมสูงประมาณ 30-40 เซนติเมตร บางจุดสูงประมาณ 50 เซนติเมตร ทำให้รถเล็กวิ่งผ่านยากลำบาก
จากภาพมุมสูงจะเห็นว่ามวลน้ำมหาศาลกำลังผ่านพื้นที่ ต.ธารปราสาท อ.โนนสูง ข้ามถนนมิตรภาพไปยังเขตพื้นที่ อ.คง และ อ.โนนแดง ทำให้รถติดสะสมยาวหลายกิโลเมตร เนื่องจากประชาชนยังไม่ทราบ ว่าน้ำท่วมถนน นับว่าเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่มีน้ำท่วมถนนมิตรภาพสายหลัก ส่งผลให้ประชาชนที่จะเดินทางไปยังภาคอีสานต้องเลี่ยงเส้นทางไปใช้เส้นทางอื่นแทน
เร่งซ่อมคันดินพนังกั้นน้ำให้เสร็จใน 7 วัน
ความคืบหน้าการซ่อมแซมคันดินพนังกันน้ำอ่างเก็บน้ำลำเชียงไกรตอนล่าง ที่ทรุดตัว 7 วัน ตอนนี้เจ้าหน้าที่กำลังเร่งซ่อมแซมกันอย่างต่อเนื่อง นายชูชาติ ธุรกิจ รองอธิบดีกรมชลประทาน ให้ข้อมูลว่าใช้วิธีนำหินขนาดใหญ่ลงไปถมตรงจุดที่คันดินผนังกั้นน้ำพังเสียหาย เปลี่ยนจากแผนเดิมที่จะใช้บิ๊กแบ็กและเกรเบี้ยน หรือว่าตาข่ายขนาดใหญ่ใส่ก้อนหินลงไปเปลี่ยนทิศทางน้ำ โดยจะเร่งทำให้เสร็จสิ้นภายใน 7 วัน คือภายในวันที่ 5 ตุลาคมนี้ คาดว่าจะสามารถควบคุมการไหลของทิศทางน้ำให้มาผ่านทางประตูระบายน้ำ และสามารถมีน้ำเก็บกักไว้ใช้ให้กับชาวบ้านในหน้าแล้งได้ ซึ่งทางกรมชลประทานคาดว่าจะมีน้ำเก็บไว้ใช้อย่างน้อย 15,000,000 ลูกบาศก์เมตร.-สำนักข่าวไทย