กรมราชทัณฑ์ 14 ก.ย.- ราชทัณฑ์เผยอาการ “เวหา” คาดว่าจะดีขึ้นตามลำดับ ด้าน “จตุภัทร์” ถูกส่งตัวกลับทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลาง หลังครบกำหนดรักษาโควิด สุขภาพร่างกายทั่วไปอยู่ในเกณฑ์ปกติ
นายธวัชชัย ชัยวัฒน์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์และโฆษกกรมราชทัณฑ์ รายงานสถานการณ์และการควบคุมดูแลตัวผู้ต้องขังที่เป็นกลุ่มผู้ชุมนุมที่ออกมาเรียกร้องทางการเมือง เพื่อให้ประชาชนได้รับทราบและสร้างความเข้าใจที่ถูกต้อง ดังนี้ กลุ่มผู้ชุมนุมทางการเมืองที่ติดเชื้อโควิด-19 ที่ถูกส่งตัวเพื่อเข้ารับการรักษาที่ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ เหลือเพียง 1 ราย คือ นายเวหา แสนชนชนะศึก โดยในวันนี้ แพทย์ประจำทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ได้เข้าตรวจร่างกาย พบว่า รู้สึกตัวดี ถามตอบรู้เรื่อง ช่วยเหลือตัวเองได้ ไม่มีอาการหอบเหนื่อย สีหน้าสดใส ยิ้มแย้มพูดคุย ไม่มีไข้ ไม่ไอ ไม่มีน้ำมูก นอนหลับพักผ่อนได้ รับประทานอาหารได้ และยังคงมีอาการจมูกไม่ได้กลิ่น แต่ลิ้นยังรับรสได้อยู่ ซึ่งเป็นอาการของโควิด-19 ที่สามารถเกิดขึ้นได้ และอาการจะค่อย ๆ ดีขึ้น
นายธวัชชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า ในส่วนผู้ต้องขังคดีการเมืองที่ถูกควบคุมตัวที่เรือนจำชั่วคราวรังสิต จำนวน 1 ราย คือ นายณัฐชนน ไพโรจน์ ที่ถูกควบคุมตัวเพียงคนเดียวอยู่ที่อาคารเรือนนอน 2 ห้องควบคุม 2/2 พยาบาลเรือนจำเข้าตรวจสุขภาพ พบว่า สุขภาพโดยรวมปกติ ไม่มีไข้ ไม่มีปวดศีรษะ ไม่มีอาการไอ ไม่มีน้ำมูก หายใจดี ไม่มีอาการหอบเหนื่อย รับประทานอาหารได้ ไม่มีอาการคลื่นไส้อาเจียน ไม่มีอาการท้องเสียและถ่ายเหลว สัญญาณชีพและค่าออกซิเจนในเลือดอยู่ในเกณฑ์ปกติ
ในส่วนกลุ่มผู้ชุมนุมที่ถูกควบคุมอยู่ที่ทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลาง จำนวน 2 ราย คือ นายอานนท์ นำภา พบว่า ไม่มีอาการเจ็บป่วย นอนพักผ่อนได้ตามปกติ สุขภาพโดยรวมแข็งแรงดี และในด้านนายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา ที่ถูกส่งตัวกลับจากทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ เนื่องจากได้รับการรักษาโควิด-19 จนครบกำหนด ได้ถูกแยกกักตัวต่ออีก 14 วัน สำหรับสังเกตอาการผู้ที่หายจากการติดเชื้อโควิด-19 โดยสุขภาพร่างกายทั่วไปโดยรวมอยู่ในเกณฑ์ปกติ
นายธวัชชัย กล่าวปิดท้ายถึงกรณีการควบคุมตัวผู้ต้องขังคดีการเมืองที่ครบกำหนดจากการรักษาโควิด-19 และถูกส่งตัวกลับไปคุมขังยังเรือนจำอำเภอธัญบุรี จำนวน 4 ราย ประกอบด้วย นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ นายภาณุพงศ์ จาดนอก นายชาติชาย แกดำ และนายพรหมศร วีระธรรมจารี ว่า ทั้งหมดมีค่าอุณหภูมิ ค่าชีพจร อัตราการหายใจ ค่าออกซิเจนในกระแสเลือด และสุขภาพโดยรวมเป็นปกติ สามารถรับประทานอาหารได้ และอยู่ระหว่างเฝ้าสังเกตอาการต่อ เนื่องจากเป็นผู้ที่หายจากการติดเชื้อโควิด-19.-สำนักข่าวไทย