เบอร์ลิน 24 ก.พ.- ข้อมูลของทางการเยอรมนีระบุว่า จีนเป็นคู่ค้าอันดับหนึ่งของเยอรมนีเป็นครั้งแรกเมื่อปีก่อน แซงหน้าสหรัฐที่ตกไปอยู่อันดับสามรองจากฝรั่งเศส
สำนักงานสถิติแห่งชาติเยอรมนีแจ้งว่า ปี 2559 ที่ผ่านมา เยอรมนีมีการค้ากับจีนเพิ่มขึ้นเป็น 170,000 ล้านยูโร (ราว 6.28 ล้านล้านบาท) ตามด้วยฝรั่งเศส 167,000 ล้านยูโร (ราว 6.17 ล้านล้านบาท) และสหรัฐ 165,000 ล้านยูโร (ราว 6.10 ล้านล้านบาท) สหรัฐเพิ่งขึ้นมาเป็นคู่ค้าอันดับหนึ่งของเยอรมนีในปี 2558 แซงหน้าฝรั่งเศสที่ผูกขาดตำแหน่งนี้มาตั้งแต่ปี 2504 เพราะเศรษฐกิจสหรัฐฟื้นตัวและเงินยูโรอ่อนค่า สำนักข่าวรอยเตอร์ระบุว่า การเปลี่ยนแปลงนี้อาจเป็นที่พอใจของรัฐบาลเยอรมนีที่ต้องการปกป้องการค้าเสรีหลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐขู่จะเพิ่มภาษีสินค้านำเข้า ขณะที่ที่ปรึกษาของเขากล่าวหาเยอรมนีว่าฉวยโอกาสใช้เงินยูโรอ่อนค่าส่งเสริมการส่งออก รองนายกรัฐมนตรีซิกมาร์ กาเบรียลของเยอรมนีถึงกับเสนอให้สหภาพยุโรป (อียู) ปรับนโยบายเศรษฐกิจมุ่งสู่เอเชียแทน หากรัฐบาลทรัมป์ใช้นโยบายปกป้องทางการค้า
ทั้งนี้หากดูเฉพาะการส่งออกของเยอรมนี สหรัฐยังคงเป็นผู้นำเข้ารายใหญ่ที่สุดถึง 107,000 ล้านยูโร (ราว 3.96 ล้านล้านบาท) ตามด้วยฝรั่งเศส 101,000 ล้านยูโร (ราว 3.73 ล้านล้านบาท) และอังกฤษ 86,000 ล้านยูโร (ราว 3.18 ล้านล้านบาท) นอกจากนี้สหรัฐยังเป็นประเทศที่เยอรมนีเกินดุลการค้ามากถึง 49,000 ล้านยูโร (ราว 1.81 ล้านล้านบาท) เพราะส่งออกไปสหรัฐมากกว่านำเข้า รองจากอังกฤษที่เยอรมนีเกินดุลการค้ามากที่สุดกว่า 50,000 ล้านยูโร (กว่า 1.85 ล้านล้านบาท) รวมสองประเทศคิดเป็นร้อยละ 40 ของยอดเกินดุลการค้าทั้งหมด 252,900 ล้านยูโร (ราว 9.35 ล้านล้านบาท).-สำนักข่าวไทย