กรมราชทัณฑ์ 10 ส.ค.-อธิบดีราชทัณฑ์ สั่งคัดกรองโควิดผู้ต้องขังอภัยโทษอย่างเข้มข้น ก่อนปล่อยพ้นคุก
นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในเรือนจำและทัณฑสถาน พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 398 ราย วันนี้ (10 ส.ค.) ไม่พบเรือนจำและทัณฑสถานระบาดเพิ่มต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 และมีเรือนจำสีแดงที่พ้นการระบาด 1 แห่ง คือ ทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลาง ส่งผลให้มีเรือนจำสีแดงทั้งสิ้น 35 แห่ง และเรือนจำสีขาวที่ไม่มีการแพร่ระบาด 107 แห่ง โดยมีผู้ติดเชื้อรักษาหายสะสม 43,098 ราย หรือร้อยละ 84.3 ของผู้ติดเชื้อสะสม 51,097 ราย เสียชีวิตสะสม 75 ราย คิดเป็นอัตรา 0.19 ของผู้ติดเชื้อสะสม
สำหรับผู้เสียชีวิตในวันนี้ เป็นผู้ต้องขังจากเรือนจำกลางปัตตานี ซึ่งจากข้อมูลพบเป็นกลุ่มเปราะบาง ได้ประสานญาติเพื่อนำร่างผู้เสียชีวิตไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนาตามวิธีการจัดการศพผู้เสียชีวิตจากโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เป็นที่เรียบร้อย
นายอายุตม์ ยังกล่าวถึงการเตรียมพร้อมก่อนปล่อยตัวผู้พ้นโทษ ตามพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษ พ.ศ. 2564 นอกจากผู้ต้องขังจะได้รับการอบรมตามโครงการพระราชทาน โคก หนอง นา แห่งน้ำใจและความหวัง กรมราชทัณฑ์ ซึ่งเป็นโครงการเตรียมความพร้อมก่อนปล่อยแล้ว ผู้พ้นโทษจะแบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่ไม่ติดเชื้อ และกลุ่มที่ยังติดเชื้ออยู่ โดยในผู้ต้องขังที่ยังติดเชื้อ หากยินยอมจะได้รับการกักตัว เพื่อดูแลรักษาต่อในเรือนจำและทัณฑสถาน จนครบระยะเวลา 14 วัน แต่หากไม่ยินยอม จะได้รับการดูแลในศูนย์พักพิงชั่วคราวบริเวณภายนอกเรือนจำ หรือส่งต่อเข้ารักษายังสถานพยาบาลภายนอกของกระทรวงสาธารณสุข ส่วนในกลุ่มผู้ต้องขังที่ไม่ติดเชื้อจะต้องได้รับการตรวจหาเชื้อและแยกกักตัวอย่างน้อย 14 วัน รวมทั้งตรวจซ้ำเป็นระยะ เพื่อยืนยันผลก่อนปล่อย หากตรวจพบว่าติดเชื้อ จะเข้าสู่กระบวนการดูแลผู้ติดเชื้อตามที่กำหนด พร้อมแจ้งไปยังญาติให้ทราบถึงสถานที่ส่งตัวรักษา และติดตามอาการจนสิ้นสุดการรักษา เพื่อไม่ให้มีการนำเชื้อไปแพร่ระบาดภายนอกเรือนจำ ซึ่งเป็นแนวทางการปล่อยตัวผู้ต้องขัง ที่กรมราชทัณฑ์ได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด นับตั้งแต่มีการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19.-สำนักข่าวไทย