กรุงเทพฯ 22 ก.ค.-โฆษกศบศ.เผยนายกฯ พอใจนักท่องเที่ยวสนใจร่วมโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์จำนวนมาก เตรียมขยายให้เที่ยวต่อสุราษฎร์ พังงา กระบี่ได้ เริ่ม1 ส.ค.นี้ พร้อมหนุนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ดึงต่างชาติลงทุน
นายธนกร วังบุญคงชนะ เลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะโฆษกประจำศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบศ.) เปิดเผยว่า วันนี้ (22 ก.ค.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเป็นประธานการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบศ.) ครั้งที่ 3/2564 ผ่านระบบ VDO Conference โดยนายกรัฐมนตรีเน้นย้ำถึงความสำเร็จของโครงการภูเก็ตแซนด์บอกซ์(Phuket Sandbox) พร้อมชื่มชมการทำงานร่วมกันของภาครัฐและเอกชน
“ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.มีจำนวนนักท่องเที่ยวสะสมรวม 9,358 คน ขณะที่ยอดการจองห้องพักตามมาตรฐาน SHA+ สะสมระหว่างเดือนกรกฎาคมถึงเดือนกันยายนอยู่ที่ 244,703 คืน คิดเป็นอัตราการเข้าพักร้อยละ 10.12 สร้างรายรับการท่องเที่ยว 534.31 ล้านบาท ซึ่งที่ประชุมให้ความสำคัญกับการดำเนินงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่าง ๆ ให้ดำเนินการอย่างเคร่งครัด ร่วมมือกันควบคุมการระบาดของโควิดให้ดี” โฆษกศบศ. กล่าว
นายธนกร กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีเห็นชอบมาตรการให้นักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้าร่วม Phuket Sandbox เดินทางท่องเที่ยวเชื่อมโยงระหว่างจังหวัดภูเก็ตกับพื้นที่นำร่องอื่น (7+7) โดยนักท่องเที่ยวพำนักภายในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตเป็นเวลา 7 วัน และสามารถไปท่องเที่ยวและพำนักในพื้นที่อื่น ๆ อีกเป็นเวลาอย่างน้อย 7 วัน ได้แก่ จังหวัดสุราษฎร์ธานี (เกาะสมุย เกาะพงัน และเกาะเต่า) จังหวัดกระบี่ (เกาะพีพี เกาะไหง และไร่เล) และจังหวัดพังงา (เขาหลัก เกาะยาวน้อย และเกาะยาวใหญ่) เริ่มดำเนินการวันที่ 1 สิงหาคมนี้
“นายกรัฐมนตรีสั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดประสานภาคเอกชนและภาคประชาชน สร้างความเข้าใจของคนในพื้นที่ร่วมกัน พิจารณาเตรียมแผนการดำเนินการบนระเบียบหลักเกณฑ์และมาตรฐานเดียวกับการดำเนินการของ Phuket Sandbox เพื่อมุ่งเน้นความปลอดภัยและการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในพื้นที่ มอบหมายให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยจัดทำรายละเอียดแผนการเชื่อมโยงให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางระหว่างจังหวัดภูเก็ตและพื้นที่นำร่องอื่น เพื่อเสนอที่ประชุมศบค.พิจารณาต่อไป รวมทั้งให้พิจารณาจัดทำแผนการเปิดรับนักท่องเที่ยวในพื้นที่ท่องเที่ยวอื่น ๆ ที่มีศักยภาพ เพื่อนำเสนอให้ที่ประชุม ศบศ. และ ศบค. พิจารณาต่อไปด้วย” โฆษกศบศ. กล่าว
นายธนกร กล่าวว่า ในส่วนของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุน โดยการดึงดูดชาวต่างชาติที่มีศักยภาพสูงเข้าสู่ประเทศไทย ตามข้อเสนอของทีมปฏิบัติการเชิงรุกทาบทามทั้งบริษัทเอกชนไทยและต่างประเทศ โดยการปรับข้อจำกัดต่าง ๆ และอำนวยความสะดวก เพื่อดึงดูดชาวต่างชาติกลุ่มเป้าหมายที่สำคัญซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อประเทศในระยะยาว ประกอบด้วย 1.กลุ่มประชากรโลกที่มีความมั่งคั่งสูง (Wealthy global citizen) 2. ผู้เกษียณอายุจากต่างประเทศ (Wealthy pensioner) 3. กลุ่มที่ต้องการทำงานจากประเทศไทย (Work-from-Thailand professional) และ4.กลุ่มผู้มีทักษะเชี่ยวชาญพิเศษ (High-skilled professional) โดยที่ประชุมได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปพิจารณาข้อเสนอในรายละเอียดต่อไป.-สำนักข่าวไทย