สำนักข่าวไทย 15 ก.ค.-ในการเสวนา สื่อมวลชน เรื่องโควิด -19 โดยกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข นักวิชาการ หนุนเดินหน้าฉีดวัคซีนสลับชนิด ซิโนแวคเข็ม 1 แอสตราฯ เข็ม 2 ห่าง 3-4 สัปดาห์ เสนอ ศบค.พรุ่งนี้ พร้อมยกเลิกการ วัดความโลหิตก่อนฉีดวัคซีน ย้ำมติ คกก.โรคติดต่อ ถูกทางมีหลักฐานอ้างอิง ติดสินใจในวัคซีนที่มีในมือ คนบิดเบือน ทางโซเชียลถือว่า บาปกรรม
นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า สถานการณ์การติดเชื้อโควิด -19 ในขณะนี้ ในเดือนกรกฎาคม พบอัตราผู้ป่วยผู้เสียชีวิตมากที่สุด เมื่อเทียบกับจำนวนผู้ป่วยติดเชื้อในทุกครั้งที่ผ่านมา โดยผู้ป่วยแตะ9,000 คนต่อวัน และเสียชีวิต 98 คน ถือว่าสูงสุดเป็นประวัติการณ์และผู้ป่วยติดเชื้อกระจายไปในหลายจังหวัด แต่พบการติดเชื้อมากสุดใน กทม.และปริมณฑล พร้อมย้ำการฉีดวัคซีนเป็นเครื่องมือที่ช่วยควบคุมโรค และลดอัตราการป่วยรุนแรง และเสียชีวิต โดยวัคซีนที่ประเทศไทยมี 2 ชนิด ซิโนแวคและแอสตราเซเนกา โดยมีวัคซีนแอสตราฯเป็นวัคซีนหลักและจองไว้มากที่สุด 61 ล้านโดส พร้อมชี้แจงว่าตั้งแต่มีการระบาดหนัก มีความพยายามจัดวัคซีนอย่างเร่งด่วนเพื่อมาเร่งฉีดเสริมให้กับบุคลากรทางการ แพทย์ โดยมีการสั่งซื้อเดือนธ.ค.63 จากนั้นวัคซีนหลักทยอยตามมา โดยขณะนี้มีวัคซีน ทั้ง 2 ชนิด เข้ามา รวมๆ เดือนละ 10 ล้านโดส และมีกำลังการฉีดเฉลี่ย 3 แสนโดสต่อวัน
ส่วนเรื่องการฉีดวัคซีนสลับชนิด ซิโนแวคเข็ม 1 จากนั้นห่าง 3-4 สัปดาห์ ฉีดเข็ม 2 เป็นแอสตราฯนั้น เตรียมเสนอที่ประชุมศบค. พรุ่งนี้ เพื่อให้อนุมัติมีการฉีดวัคซีนสลับชนิดในสัปดาห์หน้า หลังจากคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ เห็นชอบ และองค์อนามัยโลกไม่ได้มีข้อห้าม เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้สูง คุมการแพร่ระบาดของเดลตา และให้ทันกับผู้รับวัคซีนเข็ม 2 ในสัปดาห์ถัดไป พร้อมกันนี้ยังเตรียมเสนอยกเลิกการวัดความดันโลหิตสูงก่อนรับวัคซีนเพื่อไม่ให้เป็นอุปสรรคในการรับวัคซีน
นอกจากนี้ นพ.โสภณ ยังกล่าวชี้แจงว่ากรณีสัญญาส่งมอบวัคซีนแอสตราฯว่าไทยมีการจองวัคซีน26 ล้านโดส ในตอนแรก ที่สถานการณ์ไม่รุนแรง และมีการกำหนดส่งวัคซีนแบบส่งทยอยฉีดถึงสิ้นปี แต่เมื่อสถานการณ์ไม่ไว้วางใจจึงมีการสั่งจองเพิ่มอีก 35 ล้านโดส รวมเป็น 61 ล้านโดส และได้มีการเจรจาขอให้ส่งมอบภายในปี 64 โดยที่ไม่ได้คิดค่ามัดจำเพิ่ม และในสัญญาไม่ได้ระบุวันส่ง ต้องเมื่อไหร่ เดือนพ.ค.ปี 65 หรือไม่ มีไทม์ไลน์กว้าง อย่างไรก็ตามขอให้รอดู ในสิ้นปีนี้
ด้าน ศ.นพ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ นายกสมาคมเวชศาสตร์ป้องกันแห่งประเทศไทย กล่าวว่า สถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19 ใน กทม. ในขณะนี้เริ่มลดลงตั้งแต่วันที่ 10 ก.ค.ที่ผ่านมา หลังจากมียอดติดเชื้อสะสมสูงถึง 3,000 คน ตอนนี้เหลือ 2,224 คน ตอนนี้ถือว่าทุกคนเริ่มร่วมมือกันดี แต่ตอนนี้ต้องเร่งฉีดวัคซีนในผู้สูงอายุ และ ผู้ป่วย 7 กลุ่มโรคเรื้อรังให้เร็วที่สุด ภายใน 2-3 สัปดาห์ อย่างน้อยให้ได้ร้อยละ 70 ย้ำอย่าตกใจข้อมูลที่ส่งต่อทางไลน์ หรือโซเชียลขอให้ตรวจสอบช่างใจให้ดี เพราะข้อมูลส่วนใหญ่ไม่หวังดีและมีการใช้ประโยชน์ทางการเมือง คนที่ส่งต่อและสร้างความเข้าใจผิด เท่ากับบาปกรรม ข้อมูลที่ถูกต้องชัดเจนแล้วว่าทางองค์การอนามัยโลกไม่ได้ห้าม เรื่องแนวทางการรับวัคซีนแบบสลับชนิด ทุกอย่างสามารถทำได้หากมีหลักฐานการศึกษาวิจัยที่ชัดเจน องค์อนามัยโลกห้ามเรื่องการสลับวัคซีนฉีดเองโดยไม่มีหลักฐาน โดยมติคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติชัดเจนแล้วว่า วัคซีนซิโนแวคเข็ม 1 และแอสตราฯเข็ม 2 สามารถสร้างคุมเชื้อเดลตาได้ การพิจารณานี้คำนึงและคิดบนพื้นฐานวัคซีนที่มีอยู่ในมือ -สำนักข่าวไทย