วอชิงตัน 22 มิ.ย. – เฮลิกซ์ บริษัทด้านจีโนมิกส์ เผยหลักฐานเบื้องต้นชี้ให้เห็นว่า เชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 สายพันธุ์เดลตาที่พบการระบาดครั้งแรกในอินเดียและแพร่เชื้อได้รวดเร็วทั่วโลก กำลังแพร่กระจายในหลายพื้นที่ของสหรัฐที่กำลังฉีดวัคซีนให้แก่ประชาชน
เฮลิกซ์ได้วิเคราะห์ผลตรวจหาเชื้อโควิดราว 20,000 ตัวอย่างจากกว่า 700 เคาน์ตีในสหรัฐ และพบว่า เคาน์ตีที่มีอัตราฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ในระดับต่ำมีตัวเลขผู้ป่วยติดเชื้อโควิดสายพันธุ์เดลตาเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วกว่าเคาน์ตีที่มีอัตราฉีดวัคซีนในระดับสูง การแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่องของเชื้อโควิดสายพันธุ์เดลตาในพื้นที่ที่มีอัตราฉีดวัคซีนต่ำเป็นเรื่องที่น่าวิตกกังวล เพราะจะทำให้เชื้อโควิดมีโอกาสเติบโตและกลายพันธุ์ได้มากขึ้น ยิ่งเชื้อโควิดแพร่กระจายนานมากขึ้นเท่าไร ก็ยิ่งทำให้มีโอกาสเข้าไปอยู่ในเซลล์ของมนุษย์ได้ง่ายขึ้นเท่านั้น และอาจทำให้พวกมันอยู่ในรูปแบบที่อันตรายมากขึ้นเช่นกัน
ดร. วิลเลียม ลี รองประธานฝ่ายวิทยาศาสตร์ของเฮลิกซ์ กล่าวว่า เชื้อโควิดสายพันธุ์เดลตาทำให้มียอดผู้ป่วยติดเชื้อพุ่งสูงขึ้นทั่วโลก และเขาคาดว่าเชื้อดังกล่าวจะทำให้สหรัฐพบยอดผู้ป่วยติดเชื้อพุ่งสูงขึ้นเช่นกัน ทั้งยังพบว่า เชื้อโควิดสายพันธุ์เดลตาเติบโตได้เร็วกว่าเชื้อโควิดสายพันธุ์แกมมาที่พบครั้งแรกในบราซิลถึงสองเท่าในชุมชนที่มีอัตราฉีดวัคซีนต่ำ ขณะที่เชื้อโควิดสายพันธุ์แกมมาที่มีความสามารถหลบหลีกประสิทธิภาพของวัคซีน กลับพบการระบาดในเคาน์ตีที่มีอัตราฉีดวัคซีนสูง ทั้งนี้ งานวิจัยดังกล่าวของเฮลิกซ์ ซึ่งยังไม่ได้รับการตรวจสอบจากนักวิชาการ จะได้รับการเผยแพร่ในรูปแบบออนไลน์ก่อนตีพิมพ์
ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐ หรือซีดีซี ระบุว่า สหรัฐฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ครบสองโดสให้แก่ประชาชนร้อยละ 45 จากประชากรทั้งหมด 328 ล้านคน อย่างไรก็ดี สำนักข่าวบลูมเบิร์กของสหรัฐได้วิเคราะห์ข้อมูลล่าสุด โดยพบว่ายอดผู้เข้ารับการฉีดวัคซีนโควิดในระดับประเทศเป็นวงกว้างมักจะทำให้ตัวเลขผู้ฉีดวัคซีนในระดับท้องถิ่นขาดความชัดเจนมากขึ้น นอกจากนี้ บลูมเบิร์กยังพบว่า จากการวิเคราะห์ข้อมูลใน 2,700 เคาน์ตีของสหรัฐ มีประชากรน้อยกว่าร้อยละ 25 ที่ได้รับการฉีดวัคซีนครบถ้วนในอย่างน้อย 482 เคาน์ตี ขณะนี้ สหรัฐมียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมกว่า 34.4 ล้านคน และผู้เสียชีวิตกว่า 617,000 คน.-สำนักข่าวไทย