กรมควบคุมโรค 17 มิ.ย.-กรมควบคุมโรคเปิดขั้นตอนก่อนกระจายวัคซีนโควิด-19 ไปยังสถานพยาบาลในพื้นที่กรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ผ่านการตรวจสอบคุณภาพตามมาตรฐานที่ สธ.กำหนด ขณะเดียวกันการจัดสรรวัคซีนลงพื้นที่ ผ่านความเห็นชอบจาก ศบค. แล้ว
นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค (คร.) กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ตามที่รัฐบาลมีนโยบายจัดหาวัคซีนให้คนไทยอย่างน้อย 50 ล้านคน หรือร้อยละ70 ของประชากรในประเทศนั้น กรมควบคุมโรคได้ดำเนินการจัดสรรวัคซีนโดยยึดตามนโยบายของ ศบค.และข้อมูลทางวิชาการในการจัดลำดับความสำคัญของกลุ่มเป้าหมายเชิงประชากร ซึ่งคิดจากตัวเลขที่แต่ละจังหวัดตั้งมาและปรับตามสูตรการคำนวณให้สอดคล้องกับจำนวนวัคซีนที่ได้รับ
สำหรับขั้นตอนการจัดสรรวัคซีนเพื่อกระจายไปยังพื้นที่ต่างๆ เพื่อให้ประชาชนได้รับวัคซีนที่มีคุณภาพ มาตรฐาน เริ่มต้นจากองค์การเภสัชกรรมไปรับวัคซีนจากบริษัทที่สนามบินสุวรรณภูมิ และส่งตัวอย่างวัคซีนและเอกสารการตรวจสอบคุณภาพของวัคซีนให้กรมวิทยาศาสตร์ การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ตรวจสอบสภาพของบรรจุภัณฑ์ จำนวน และอุณหภูมิที่ใช้ในการขนส่งวัคซีน ให้เป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนดไว้
ทั้งนี้ การทดสอบคุณภาพและการวิเคราะห์คุณภาพของวัคซีนในห้อง ปฏิบัติการ จะดำเนินไปพร้อมกับการตรวจสอบเอกสารข้อมูลการผลิตและการควบคุมคุณภาพของผู้ผลิต (Summary Production Protocol) โดยวัคซีนซิโนแวค จะใช้เวลาในการตรวจสอบคุณภาพประมาณ 1-2 สัปดาห์ ส่วนวัคซีนแอสตราเซเนกาที่มีโรงงานการผลิตอยู่ในประเทศไทยจะใช้เวลาในการตรวจสอบคุณภาพวัคซีนเฉลี่ยประมาณ 3 วัน ซึ่งก่อนการอนุมัติให้กระจายวัคซีนของแอสตราเซเนกาต้องส่งผลการตรวจสอบคุณภาพไปยังประเทศอังกฤษเพื่อทำการวิเคราะห์คุณภาพอีก 1 วัน หลังผ่านการวิเคราะห์คุณภาพจากประเทศอังกฤษแล้ว กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์จะทำการออกหนังสือรับรองรุ่นการผลิต (lot released) ให้องค์การเภสัชกรรม ซึ่งเป็นผู้นำเข้าวัคซีนและองค์การเภสัชฯจะส่งมอบวัคซีนให้กับกรมควบคุมโรคต่อไป
ทั้งนี้ กรมควบคุมโรคจะเป็นผู้จัดสรรและกระจายวัคซีนตามแผนการจัดสรรวัคซีนที่ ศบค. พิจารณาเห็นชอบ ซึ่งก่อนการส่งมอบวัคซีนไปยังพื้นที่ต่างๆ ทั้งกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดจะมีการวางระบบควบคุมที่มีมาตรฐานตั้งแต่การตรวจสอบคุณภาพ การเก็บรักษาและการควบคุมอุณหภูมิของพื้นที่ปลายทางที่จะรับวัคซีนด้วย
ส่วนการจัดฉีดวัคซีนคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดหรือคณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานครเป็นผู้บริหารจัดการ โดยต้องฉีดให้สมดุลกับวัคซีนที่ได้รับ ให้มีวัคซีนฉีดต่อเนื่อง เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันต่อโรคโควิด-19 ให้กับประชาชน .-สำนักข่าวไทย