อาคารไทยซัมมิท 15 มิ.ย. – “ปิยบุตร” ชี้ แก้ รธน.เหมือนเล่นละครปาหี่ ไม่มีความจริงใจ เลือกแก้เฉพาะเรื่อง ไม่แตะประเด็นสำคัญ
นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า แกนนำกลุ่ม Re-Solution กล่าวถึงกรณีที่พรรคการเมืองเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตราในช่วงนี้ ว่า กระบวนการแก้รัฐธรรมนูญรอบนี้ มันเป็นการเล่นละคร ตบตา ปาหี่ มาตั้งแต่เริ่มต้น เห็นได้ชัดว่า รัฐบาลเสียงข้างมากในเวลานี้ รวมถึง ส.ว.ไม่ได้มีความจริงใจอยากแก้รัฐธรรมนูญตั้งแต่ต้น จนโดนประชาชน โดนฝ่ายค้าน และโดนพรรคร่วมรัฐบาลกดดัน จึงเริ่มต้นทำญัตติตั้ง กมธ.ศึกษาการแก้รัฐธรรมนูญ จากนั้นก็โดนผู้ชุมนุมกดดัน เลยยอมลงมติรับหลักการ แต่ก็ใช่ว่า รับทันที เพราะมีการตั้ง กมธ.ศึกษาอีกเพื่อยื้อเวลา จนท้ายที่สุดทำขึ้นมาแล้วมีการร้องศาลรัฐธรรมนูญอีก ก่อนที่สุดท้ายในวาระ 3 ก็คว่ำไป ทำราวกับว่า การจะแก้รัฐธรรมนูญฉบับนี้ หรือการจะทำใหม่ทั้งฉบับ จะเกิดขึ้นไม่ได้เลย แต่ท้ายที่สุด เมื่อสถานการณ์การเมืองบีบงวดมากขึ้น พรรคร่วมรัฐบาลเริ่มมีปัญหากันเองมากขึ้น คราวนี้เริ่มกลับมาคิดเรื่องการแก้รัฐธรรมนูญ
“กติกาที่พวกคุณเคยออกแบบมา เพราะไม่อยากให้พรรคการเมืองใหญ่ได้ ส.ส.จำนวนมาก กังวลว่า เขาจะกลับมาเป็นรัฐบาลอีก คราวนี้ก็เลยเข้าตัวเอง เพราะจะทำให้พรรคของคุณไม่ได้ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ก็เลยเริ่มเสนอแก้รายมาตรา และรีบกันจนจะแซงคิวร่าง พ.ร.บ.ประชามติที่ค้างพิจารณา นี่เป็นความผิดปกติอย่างชัดเจน ที่นักการเมืองบางกลุ่ม สมาชิกรัฐสภาบางพวก กำลังรวมหัวกันต้มประชาชน ดังนั้น บทบาทของประธานรัฐสภา มีความสำคัญ อย่างน้อยควรรอให้ร่าง พ.ร.บ.ประชามติจบก่อน รัฐสภาสมัยนี้ยังมีเวลาอีกหลายเดือนที่จะพิจารณาญัตติต่างๆ” นายปิยบุตรกล่าว
นายปิยบุตร กล่าวอีกว่า อยากชวนพิจารณาว่า การแก้รัฐธรรมนูญรอบนี้ที่พรรคต่างๆ มีการเสนอมาหลายร่าง ตามแต่ละพรรคนั้นๆ จะออกแบบ แต่ความสำคัญอยู่ที่ วัตถุประสงค์ลึกๆ แล้วเขาต้องการอะไรกันแน่ ซึ่งคิดว่าฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านบางพรรค เขาต้องการเน้นไปที่การแก้ระบบเลือกตั้ง เรื่องอื่นเป็นเพียงองค์ประกอบ เป็นเพียงเครื่องประดับที่ตกแต่งเท่านั้นเอง และท้ายที่สุด คาดการณ์ว่า การแก้ระบบเลือกตั้งครั้งนี้ จะมีโอกาสสำเร็จด้วย ถ้าหากการแก้ระบบการเลือกตั้งครั้งนี้สำเร็จ กลับไปเป็นแบบรัฐธรรมนูญ 2540 นี่คือการเปิดทางให้ระบอบประยุทธ์ได้สืบทอดอำนาจอีกรอบ นับเป็นครั้งที่ 3 ที่เขาหลอกต้มประชาชน
“โดยครั้งแรก คือ การลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ 2560 ที่มีคำถามพ่วงให้ ส.ว. 250 คน จากการแต่งตั้งของประยุทธ์ และมีอำนาจเลือกนายกรัฐมนตรี ครั้งที่สอง คือ เมื่อมีการเลือกตั้งได้รัฐบาลเสียงปริ่มน้ำที่ส่วนหนึ่งพรรคการเมืองที่มาร่วมก็กังวลเรื่อง ส.ว.250 คน และครั้งนี้ ต้องการให้การเลือกตั้งครั้งหน้า พรรคตนเองชนะเบ็ดเสร็จ ก็เปลี่ยนระบบเลือกตั้งให้ตนเองได้เปรียบ ซึ่งหากทำสำเร็จ 3 ครั้งติดต่อกันนี้ คำถามคือประชาชนอยู่ตรงไหน ประชาชนไม่มีค่าในสายตาระบอบประยุทธ์หรือไม่ เรื่องใหญ่ที่เป็นประเด็นสำคัญไม่แตะ ไม่ทำ คว่ำไป แต่พอเรื่องที่ตัวเองได้ประโยชน์ก็หยิบมา แถมจะแซงคิวอีก จะเอาให้ได้เพื่อแก้ไขปัญหาการเมืองของตนเอง เราต้องไม่ปล่อยให้เรื่องแบบนี้เกิดอีก” นายปิยบุตรกล่าว .-สำนักข่าวไทย