ทำเนียบ 25 พ.ค. – ครม. รับทราบมติคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ผ่านรายงาน EIA 4 โครงการ พร้อมดูแลเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากโครงการ
นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) รับทราบมติคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ครั้งที่ 1/2564 เมื่อวันที่ 25 มกราคม 2564 รายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม จำนวน 4 โครงการ ได้แก่ 1.โครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลืองส่วนต่อขยาย ช่วงแยกรัชดา – ลาดพร้าว ถึงแยกรัชโยธิน 2. โครงการถนนเลี่ยงเมืองสตูลฝั่งตะวันออก ตำบลคลองขุด ตำบลพิมาน อำเภอเมือง จังหวัดสตูล 3. โครงการศึกษาออกแบบระบบขนส่งมวลชนโดยระบบราง อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา และ 4.โครงการทางหลวงหมายเลข 203
โดยให้ทั้ง 4 โครงการ ดำเนินการตามมาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อม รวมทั้งมาตรการติดตามตรวจสอบผลกระทบสิ่งแวดล้อมตามที่กำหนดไว้ในรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมอย่างเคร่งครัด และให้ตั้งงบประมาณเพื่อดำเนินการตามมาตรการฯ ที่กำหนดไว้
สำหรับโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลืองส่วนต่อขยาย ช่วงแยกรัชดา – ลาดพร้าว ถึงแยกรัชโยธิน ให้ดำเนินการเพิ่มเติมในประเด็นต่าง ๆ เช่น การกำหนดแนวทางการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากอุบัติเหตุที่เกิดจากการก่อสร้าง และการพิจารณาจุดจอดที่สถานี YLEX01 (บริเวณสำนักงานศาลยุติธรรม) และทางเชื่อมยกระดับที่เหมาะสม โครงการถนนเลี่ยงเมืองสตูลฝั่งตะวันออก ตำบลคลองขุด ตำบลพิมาน อำเภอเมือง จังหวัดสตูล ให้ดำเนินการเพิ่มเติมในการป้องกัน เฝ้าระวังการรุกล้ำใช้ประโยชน์และการขยายตัวของชุมชนในพื้นที่ที่ผ่านป่าชายเลนเสื่อมโทรม และมาตรการด้านสาธารณสุขสำหรับประชาชนที่อาจได้รับผลกระทบจากการก่อสร้าง และ โครงการทางหลวงหมายเลข 203 ให้ประสานกรมป่าไม้ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เกี่ยวกับการควบคุมไม่ให้มีผลกระทบต่อภูมิทัศน์และพื้นที่ป่าไม้บริเวณนอกพื้นที่ก่อสร้าง
นอกจากนี้ ครม. ยังรับทราบการปรับปรุงมาตรฐานควบคุมการระบายน้ำทิ้ง จากท่าเทียบเรือประมงบางประเภท และเห็นชอบตามร่างประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง กำหนดมาตรฐานควบคุมการระบายน้ำทิ้งจากท่าเทียบเรือประมงบางประเภท ได้แก่ ท่าเทียบเรือประมงพาณิชย์ ท่าเทียบเรือประมงสำหรับการนำเข้าสัตว์น้ำ ท่าเทียบเรือประมงของโรงงานแปรรูปสัตว์น้ำ และท่าเทียบเรือประมงที่มีการขนถ่ายสัตว์น้ำสำหรับการผลิตอาหารสัตว์ ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมพิจารณาลงนามต่อไป.-สำนักข่าวไทย