สธ.24พ.ค.-อธิบดีกรมควบคุมโรค ย้ำแผนกระจายวัคซีนเป็นอำนาจ ศบค. แต่เน้น 4 ปัจจัยที่มีความสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันเป็นหลัก ส่วนการควบคุมเชื้อโควิดแอฟริกาในภาคใต้ เน้นการสุ่มตรวจรอบพื้นที่ เพื่อค้นหาผู้ป่วยติดเชื้อเพิ่ม
นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า แผนการฉีดวัคซีนโควิด เดี๋ยวทาง ศบค.จะมีการประชุมหารือแล้วคงแถลงกับสื่อมวลชน เบื้องต้นการจัดสรรวัคซีนจะคำนึงถึง 4 ปัจจัย 1. จำนวนวัคซีนที่มี 2.จำนวนประชากร 3.สถานการณ์การระบาดในปัจจุบัน และ 4.กลุ่มเป้าหมาย เช่น ครู แรงงาน ซึ่งการจัดสรรต้องคำนึงถึงสถานการณ์การระบาดเพื่อควบคุมโรค
ทั้งนี้ แผนการฉีดวัคซีนจะเริ่มใช้ในเดือนมิถุนายนเป็นหลัก ที่มีวัคซีนของแอสตราเซเนกาเข้ามา วัคซีนซิโนแวค เป็นส่วนเสริม ที่เริ่มมีการฉีดในเดือนมีนาคม เมษายน และพฤษภาคม โดยวัคซีนซิโนแวคที่เข้ามามีรวม 6 ล้านโดส และ ตรวจสอบล็อตการผลิตแล้ว 4 ล้านโดสกระจายฉีดไปแล้ว
นพ.โอภาส กล่าวว่า ขณะนี้ไม่อยากให้ประชาชนกังวลเรื่องของวัคซีนตอบสนองกับเชื้อไวรัสโควิดที่มีการสายพันธุ์ เพราะประสิทธิภาพของวัคซีนยังให้ผลดีทั้งลดอัตราการเสียชีวิต และความรุนแรงของโรค อย่ากังวลหรือคำนึงเรื่องสายพันธุ์ที่เปลี่ยนไป
ส่วนสถานการณ์การระบาดของโควิดในอำเภอตากใบ จ.นราธิวาส หลัง จากพบคนป่วยติดเชื้อที่มี 83 คน และสุ่มตรวจสายพันธุ์พบเป็นสายพันธุ์แอฟริกา 3 คนนั้น ไม่จำเป็นต้องมีการสุ่มตรวจหาเชื้อเพิ่มว่ามีการติดเชื้อเป็นสายพันธุ์ไหนอีก เพียงแต่ต้องมองไปข้างหน้าเน้นการตรวจหาเชื้อในชุมชนโดยรอบพื้นที่ ค้นหาผู้ป่วยติดเชื้อว่ามีหรือไม่ อย่างไรก็ตามพบว่า ผู้ป่วยติดเชื้อที่พบในพื้นที่ตากใบ ส่วนใหญ่อาการไม่รุนแรง .-สำนักข่าวไทย