ทำเนียบรัฐบาล 21 พ.ค.-“พล.อ.ประวิตร” ประชุมกนภ.ย้ำทส.ขับเคลื่อนลดก๊าซเรือนกระจกต่อเนื่องตามกรอบUN เน้นสร้างการรับรู้ ประชาชนมีส่วนร่วม เห็นชอบร่างแถลงการณ์ความร่วมมือไทย-สวิส มาตรการทดแทนปูนเม็ด

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศแห่งชาติ (กนภ.) ครั้งที่ 3/2564 ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ โดยมีนายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.) ร่วมประชุม ที่ทำเนียบรัฐบาล โดยที่ประชุมรับทราบการดำเนินงานที่สำคัญและผลการประชุมระดับรัฐมนตรีระหว่างผู้นำสหรัฐ และผู้นำจากประเทศที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกระดับสูง รวมทั้งผู้นำจากประเทศที่ดำเนินงานด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอย่างโดดเด่น และได้เตรียมการประชุมครั้งต่อไปณ สหราชอาณาจักรในเดือนพฤศจิกายนนี้ โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้รับเชิญเข้าร่วมประชุม ในหัวข้อ “Climate Adaptation and Resilience”
ทั้งนี้ ที่ประชุมเห็นชอบร่างกรอบท่าทีเจรจาของไทยในการประชุมกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ประจำปี พ.ศ.2564 เพื่อใช้ในการเจรจาการประชุมองค์กรย่อยต่อไป และเห็นชอบข้อเสนอตามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือฯ ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก : มาตรการทดแทนปูนเม็ด อาทิ ให้ เร่งรัดปรับปรุงมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) ประเภทผลิตภัณฑ์คอนกรีต ให้สามารถใช้ผลิตภัณฑ์ปูนซีเมนต์ที่ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นวัตถุดิบได้ เป็นต้น รวมถึงเห็นชอบร่างแถลงการณ์ร่วม (joint statement) ระหว่างสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมของไทย กับกรมสิ่งแวดล้อมของสวิสเซอร์แลนด์ ในความร่วมมือด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เนื่องในโอกาสฉลองครบรอบ 90 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตของสองประเทศ

พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า รัฐบาลให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่อภาวะโลกร้อน ซึ่งได้มีความพยายามแก้ปัญหามาอย่างต่อเนื่อง เพื่อรักษาสิ่งแวดล้อมทั้งภายในประเทศ และของโลก ตามกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติ พร้อมกำชับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมให้เร่งสร้างการรับรู้ ความเข้าใจแก่ประชาชน และมีส่วนร่วมสนับสนุนภาครัฐ รวมถึงรณรงค์ขอให้ประชาชนร่วมกันอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม เพื่อป้องกันภาวะโลกร้อน ไปด้วยกัน.-สำนักข่าวไทย