กระทรวงการต่างประเทศ 19 พ.ค.- กต.เผยสถานทูตไทยในกรุงเทลอาวีฟ ประสานครอบครัวผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บในอิสราเอล ดูแลคนเจ็บและนำศพกลับ เผยคนเจ็บ 6 จาก 8 รายได้กลับบ้านแล้ว
นายธานี แสงรัตน์ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยเถึงกรณีแรงงานไทยในอิสราเอลเสียชีวิต 2 ราย และบาดเจ็บ 8 ราย จากเหตุระเบิดโจมตีด้วยจรวดของกลุ่มฮามาส ที่นิคมเกษตรกรรม (โมชาฟ) Ohad ใกล้ฉนวนกาซา เมื่อวันที่ 18 พ.ค. ที่ผ่านมาว่า น.ส.พรรณนภา จันทรารมย์ เอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ รายงานว่า แรงงานชายไทยที่เสียชีวิต 2 ราย สถานเอกอัครราชทูตได้ประสานกับแรงงานจังหวัดในประเทศไทย เรื่องข้อมูลผู้เสียชีวิต กระบวนการส่งศพผู้เสียชีวิต การติดตามสิทธิประโยชน์ รวมทั้งเงินชดเชยที่ผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บพึงได้รับจากสถาบันประกันแห่งชาติอิสราเอล (National Insurance Institute) พร้อมแจ้งครอบครัวของผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บแล้ว
โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า สำหรับผู้ที่ได้รับบาดเจ็บมีอาการสาหัส 2 ราย และผู้ที่ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย 6 ราย ได้รับการรักษาที่โรงพยาบาล Soroka เมือง Beer Sheva บางส่วนอาการดีขึ้นมาก จึงได้รับการอนุญาตให้เดินทางกลับที่พักแล้ว ทั้งนี้ น.ส.พรรณนภา ได้โทรศัพท์หาผู้บาดเจ็บและญาติ แสดงความเสียใจและอวยพรให้ฟื้นตัวจากอาการบาดเจ็บโดยเร็ว
“นาย Alon Schuster รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรอิสราเอล รวมถึงนาย Gilard Cohen รองปลัดกระทรวงการต่างประเทศอิสราเอล ได้โทรศัพท์ถึงเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ เพื่อแสดงความเสียใจต่อการเสียชีวิตและบาดเจ็บของแรงงานไทย โดยทางการอิสราเอลพร้อมที่จะช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว พร้อมย้ำว่า อิสราเอลใช้มาตรฐานในการรักษาความปลอดภัยแก่คนต่างชาติเช่นเดียวกับชาวอิสราเอล” นายธานี กล่าว.- สำนักข่าวไทย