ผู้ตรวจการแผ่นดินขยายเวลาทำงานที่บ้าน

ผู้ตรวจการแผ่นดิน วันนี้  ( 13 พ.ค.)  ผู้ตรวจการแผ่นดินขยายเวลาทำงานที่บ้านถึง 31 พฤษภาคม  หลังการแพร่เชื้อโควิด-19 ยังวิกฤต  เชื่อมีความรุนแรง ติดเชื้อง่าย   แต่ยืนยันพร้อมรับเรื่องร้องเรียนทุกช่องทาง


พ.ต.ท.กีรป กฤตธีรานนท์ เลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน  ได้ลงนามในประกาศสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน เรื่องมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ฉบับที่ 7) ขยายเวลาให้บุคลากรของสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินปฏิบัติงาน ณ ที่พักอาศัยของตนเอง จนถึง 31 พฤษภาคม 2564   เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด – 19 ในประเทศไทยได้ทวีความรุนแรงขึ้นอีก  เชื้อที่กำลังเผชิญอยู่เป็นเชื้อสายพันธุ์อังกฤษ  ซึ่งสามารถแพร่ระบาดได้เร็วกว่าสายพันธุ์เดิมถึง 1.7 เท่า ทำให้ขณะนี้เกิดการระบาดของโรคอย่างรวดเร็ว  พบยอดผู้ติดเชื้อจำนวนมาก และกระจายอยู่ทั่วประเทศไทย  โดยเฉพาะการเริ่มตรวจเจอคลัสเตอร์ใหม่ตามแหล่งชุมชมที่มีผู้พักอาศัยหนาแน่นแออัดในหลายพื้นที่ของ กทม.  เช่น ย่านคลองเตย ห้วยขวาง และบางแค  

ซึ่งรัฐบาลได้ขอความร่วมมือหน่วยงานราชการให้ปฏิบัติงานนอกสถานที่ หรือ Work From Home  เพื่อลดอัตราความเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อ  เพื่อให้การปฏิบัติงานของสำนักงานสอดคล้องกับสถานการณ์ คำนึงถึงคุณภาพชีวิตและความปลอดภัยในการปฏิบัติงานของพนักงานและลูกจ้าง   จึงออกประกาศให้ผู้อำนวยการสำนัก ผู้อำนวยการสถาบัน  หัวหน้าหน่วย มอบหมายงานให้พนักงานและลูกจ้างในสังกัดเพื่อนำกลับไปปฏิบัติงานอย่างที่พักอาศัยของตนไป  จนถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2564 และให้รายงานผลการดำเนินงานหรือความก้าวหน้าของงานต่อผู้บังคับบัญชาทุกสัปดาห์เป็นอย่างน้อย  ตามแบบฟอร์มรายงานการปฏิบัติงานจากที่พักอาศัย พร้อมสังเกตอาการของตนเองและผู้ใกล้ชิดด้วย   หากมีภาวะเสี่ยงต่อโรคดังกล่าวให้รีบพบแพทย์และแจ้งผู้บังคับบัญชาโดยเร็ว


พ.ต.ท.กีรป  ยังกล่าวว่าในส่วนของการร้องเรียน ทางสำนักงานยังพร้อมรับเรื่องร้องเรียนจากประชาชน   โดยสามารถร้องเรียนผ่านช่องทางต่าง ๆ ของสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินได้  ทางสายด่วน 1676 (โทรฟรีทั่วประเทศ), ทางไปรษณีย์ ส่งมาที่ สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ อาคารรัฐประศาสนภักดี ชั้น 5 ถนนแจ้งวัฒนะ แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ  หรือตู้ ปณ. 333 ปณฝ. ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ กรุงเทพฯ 10215 , เว็บไซต์ และ สมาร์ทโฟนร้องเรียนผ่านแอปพลิเคชัน “ผู้ตรวจการแผ่นดิน” ได้.-สำนักข่าวไทย  212

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จำคุกสมรักษ์คำสิงห์

ศาลสั่งคุก 2 ปี 13 เดือน 10 วัน “สมรักษ์” พยายามข่มขืนสาววัย 17

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก “สมรักษ์ คำสิงห์” อดีตนักมวยฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก เป็นเวลา 2 ปี 13 เดือน 10 วัน พร้อมชดใช้ค่าสินไหมทดแทนรวม 170,000 บาท คดีพยายามข่มขืนเด็กสาววัย 17 ปี

Chinese foreign ministry in January 2025

ถอดบทเรียนจากจีน แก้ปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 จริงจัง

ปักกิ่ง 23 ม.ค. – สถานการณ์ฝุ่นพิษ PM 2.5 ที่กำลังเป็นปัญหาใหญ่และเร่งด่วนในไทยอยู่ในขณะนี้ หลายฝ่ายกำลังหาทางแก้ไขด้วยการมุ่งไปที่ต้นตอที่ทำให้เกิดฝุ่น จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลกระบุว่า ในปี พ.ศ. 2542 ประชากรโลกมากถึง 92% ได้รับฝุ่น PM2.5 ในระดับความเข้มข้นสูงกว่าที่องค์การอนามัยโลกกำหนด และถ้ารัฐบาลทุกประเทศไม่เร่งแก้ปัญหาอย่างเอาจริงเอาจัง ภายในอีก 7 ปีข้างหน้า หรือ พ.ศ. 2573 คุณภาพชีวิตคนทั่วโลกจะยิ่งเลวร้ายสุดขีด เพราะปริมาณ PM2.5 จะเพิ่มขึ้นจากเดิม 50% และประเทศที่สามารถพิสูจน์ให้เห็นเป็นตัวอย่างว่า หากรัฐบาลตั้งใจจริงจัง ทุ่มสรรพกำลังความพยายาม จะสามารถกำจัดปัญหาฝุ่นควันพิษได้อย่างแน่นอนนั่นก็คือ จีน   จีนเคยมีคนเสียชีวิตเพราะมลพิษในอากาศปีละหลายล้านคน แต่ทุกวันนี้แม้แต่ธนาคารโลกยังยกย่องจีนว่า เป็นแบบอย่างของความพยายาม สามารถพลิกฟ้าหม่นเพราะฝุ่น PM2.5 ให้กลับเป็นฟ้าใสได้สำเร็จ ความพยายามของเหมา เจ๋อตุง ผู้นำจีนที่มุ่งเปลี่ยนสังคมเกษตรกรรมเป็นสังคมอุตสาหกรรม ทำให้จำนวนโรงงานในจีนเพิ่มขึ้นทวีคูณภายใน พ.ศ. 2502 แน่นอนว่า นโยบายเศรษฐกิจของผู้นำจีนช่วยให้คนจีนหลายล้านหลุดพ้นจากขีดความยากจน แต่ก็ต้องแลกกับชีวิตและสุขภาพ เพราะควันพิษจากโรงงานทำให้ฝุ่น PM2.5 พุ่งในระดับเกินกว่าจะรับไหว กว่ารัฐบาลจะรู้ตัวว่าปัญหามาถึงขั้นวิกฤต […]

คึกคัก คู่รักจูงมือกันไปจดทะเบียนวันแรกกฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผล

วันนี้กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ หลายคู่รักควงแขนไปจดทะเบียนสมรสกันชื่นมื่น ที่สยามพารากอน มีคู่รักที่ลงทะเบียนมาจดทะเบียนสมรสที่นี่กว่า 300 คู่

ผู้ป่วยเสียชีวิต

รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก-เสียชีวิต จากเหตุชายผิวสีคลุ้มคลั่ง

ผอ.รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก หรือเสียชีวิต จากเหตุต่างชาติผิวสีคลุ้มคลั่ง มีเพียงเจ้าหน้าที่ รพ.บาดเจ็บจากการถูกต่อยเล็กน้อย

ข่าวแนะนำ

ดีเอสไอจ่อล่องเรือใช้เลเซอร์สแกนจำลอง 3 มิติ สืบคดี “แตงโม”

ดีเอสไอ นำผู้เชี่ยวชาญหลายด้านเปิดประชุมนัดแรก ลุยสืบสวน “คดีแตงโม” จ่อล่องเรือใช้เลเซอร์สแกนจำลอง 3 มิติ หาพยานหลักฐานใหม่ และบินเก็บข้อมูลระบบ Cloud ในมือถือทุกคนบนเรือ-นอกเรือ

แก้ปัญหาฝุ่น

นายกฯ สั่งการด่วนคมนาคมออกมาตรการหยุด PM 2.5

นายกฯ สั่งการคมนาคมออกมาตรการเร่งด่วน หยุด PM 2.5 ให้ประชาชนนั่งรถไฟฟ้าทุกสาย-ขสมก.ฟรี 7 วัน 25-31 ม.ค.นี้ เตรียมใช้งบกลางกว่า 140 ล้านบาท ชดเชยผู้ประกอบการ เข้มตั้งจุดตรวจควันดำ 8 จุด รอบ กทม.-ปริมณฑล

เปิดรับการลงทุน

นายกฯ ย้ำบทบาทของไทยในเวทีโลก ที่ดาวอส พร้อมเปิดรับการลงทุน

นายกฯ ย้ำบทบาทของไทยในเวทีโลก ที่ดาวอส พร้อมเปิดรับการลงทุนสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจ ด้วยจุดแข็งด้านเกษตรกรรม Soft Power และอุตสาหกรรมที่มีความยั่งยืน มุ่งมั่นพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลและการค้าเสรี เร่งสร้างสภาพแวดล้อมทางการค้าที่เสรี เปิดกว้าง และยั่งยืน

ช้างหลุดเดินถนน

ระทึก! ช้างหลุดจากปางช้างเดินบนถนน รถเสียหาย 1 คัน

ระทึก! ควาญช้างและตำรวจเร่งติดตามช้างหลุดจากปาง เดินบนถนน ชนกระจกมองข้างรถยนต์เสียหาย 1 คัน สุดท้ายไปเจอเล่นน้ำอยู่ในลำธารอย่างสบายใจ