พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. แถลงผลการจับกุมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวญี่ปุ่น หลอกผู้เสียหาย 46 ราย รวมมูลค่ากว่า 12 ล้านบาท และใช้ประเทศไทยเป็นที่ซ่อนตัว การจับกุมในครั้งนี้ทางตำรวจตม. 3 ได้ สอดส่องดูพฤติกรรมของชาวต่างชาติที่อยู่ในประเทศไทยอย่างไม่พึงประสงค์ กระทั่ง สังเกตุพบ นายมิซูม่า ชาวญี่ปุ่น อายุ40 ปี เดินทางเข้าไทยด้วยวีซ่านักท่องเที่ยว และตลอด2ปีที่อยู่ในประเทศไทยไม่มีอาชีพเป็นหลักแหล่ง แต่สามารถดำรงชีพได้ เจ้าหน้าที่จึงเข้าไปตรวจสอบ กระทั่งได้รับข้อมูลจากทางการญี่ปุ่นว่านายมิซูม่า เป็นผู้ต้องหาที่กระทำผิดในประเทศญี่ปุ่นร่วมกับเพื่อนอีก 7 คน ลักษณะเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ อ้างตัวเป็นตำรวจและโทรไปหาเหยื่อเพื่อขอตรวจสอบบัญชีเงินฝาก โดยใช้วิธีพูดหว่านล้อมจนเหยื่อหลงเชื่อบอกเลขรหัสบัตรบัญชีธนาคาร จากนั้นนายมิซูม่าจะส่งเพื่อนให้ปลอมตัวเป็นตำรวจ ขอเข้าไปตรวจบ้านของเหยื่อและขโมยบัตรกดเงินของเหยื่อ เพื่อนำไปกดเงิน
ซึ่งภายหลังก่อเหตุแก๊งคอลเซ็นเตอร์ แก๊งนี้ ถูกจับกุมได้ 7 คน ส่วนนายมิซูม่า ได้หลบหนีเข้าประเทศไทยและพักอาศัยที่คอนโดแห่งหนึ่งในเมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี กระทั่งถูกเจ้าหน้าที่จับกุมดำเนินคดี ในข้อหาเป็นบุคคลต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด และถูกส่งตัวกลับไปดำเนินคดีที่ประเทศญี่ปุ่น
สำหรับแก๊งคอลเซ็นเตอร์แก๊งนี้ได้ร่วมกันก่อเหตุในประเทศญี่ปุ่นทั้งสิ้น 113 คดี มีผู้เสียหายที่ถูกหลอกเอาเงิน 46 ราย รวมราคามูลความเสียหาย 40,5000,000เยน หรือประมาณ 12 ล้านบาท -สำนักข่าวไทย