กรมคุมประพฤติ 22 เม.ย.-กรมคุมประพฤติ สรุปยอดเมาขับช่วงเทศกาลสงกรานต์ยุคโควิด-19 ลดจากปี 62 กว่า 50% พบกระทำผิดซ้ำ 224 คดี
นายวิตถวัลย์ สุนทรขจิต อธิบดีกรมคุมประพฤติ กระทรวงยุติธรรม แถลงสรุปยอดสถิติคดีที่เข้าสู่กระบวนการคุมความประพฤติ ช่วง 7 วันที่มีการคุมเข้มเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ.2564 ภายใต้ชื่อ “คุมประพฤติใส่ใจ สร้างความปลอดภัยทางถนน เมาขับจับติด EM” ระหว่างวันที่ 10–16 เมษายน 2564 มีคดีที่เข้าสู่กระบวนการคุมความประพฤติจากสำนักงานคุมประพฤติทั่วประเทศ 117 แห่ง มีจำนวนทั้งสิ้น 6,188 คดี จำแนกเป็น คดีขับรถในขณะเมาสุรา จำนวน 6,061 คดี คิดเป็นร้อยละ 97.95 คดีขับเสพ จำนวน 123 คดี คิดเป็นร้อยละ 1.99 คดีขับรถประมาท จำนวน4 คดี คิดเป็นร้อยละ 0.06
เมื่อเปรียบเทียบสถิติคดีเข้าสู่งานคุมประพฤติคดีขับรถในขณะเมาสุราช่วงสงกรานต์ พ.ศ.2562 และ พ.ศ.2564 พบว่าสงกรานต์ปี 2562 มีจำนวน 12,325 คดี สงกรานต์ปี 2564 จำนวน 6,061 คดี ลดลง 6,264 คดี คิดเป็นร้อยละ 50.82 ในปี 2563 ยกเลิกวันหยุดเทศกาลสงกรานต์ ถ้าเปรียบเทียบคดีขับรถในขณะเมาสุราปีใหม่ 2564 มีจำนวน 4,435 คดี กับ สงกรานต์ 2564 จำนวน 6,061 คดี พบว่า เพิ่มขึ้น 1,626 คิดเป็นร้อยละ 26.8
สำหรับจังหวัดที่มีคดีขับรถในขณะเมาสุราสูงสุด 3 อันดับ ได้แก่ จังหวัดอุบลราชธานี จำนวน 492 คดี จังหวัดเชียงราย จำนวน 356 คดี และจังหวัดชัยภูมิ จำนวน 322 คดี
อธิบดีกรมคุมประพฤติ กล่าวว่า จากการตรวจสอบประวัติการกระทำผิดย้อนหลัง 3 ปี พบมีผู้กระทำผิดซ้ำในคดีขับรถในขณะเมาสุรา จำนวน 224 คดี คิดเป็น ร้อยละ 4.09 และไม่มีผู้กระทำผิดซ้ำในฐานความผิดเดียวกันกับช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ. 2564 นอกจากนี้ ยังตรวจพบว่ามีการกระทำผิดซ้ำในคดีขับเสพ อีกจำนวน 8 ราย
การติดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ติดตามตัว หรือ กำไล EM มีจำนวนทั้งสิ้น 25 ราย ส่วนใหญ่ศาลกำหนดเงื่อนไขห้ามออกจากที่อยู่อาศัย ในช่วงเวลา 22.00-04.00 น. เป็นระยะเวลา 15 วัน พักใช้ใบอนุญาตขับขี่เป็นเวลา 6 เดือน ทั้งนี้ สำนักงานคุมประพฤติทั่วประเทศเฝ้าติดตามและควบคุมดูแลผู้กระทำผิดตลอด 24 ชั่วโมงผ่านศูนย์ควบคุมอิเล็กทรอนิกส์ติดตามตัว (Electronic Monitoring Control Center – EMCC)
อธิบดีกรมคุมประพฤติ กล่าวต่อว่า ผู้กระทำผิดที่เข้าสู่กระบวนการคุมความประพฤติ โดยเฉพาะผู้กระทำผิดในฐานความผิดขับรถในขณะเมาสุราทุกราย จะต้องผ่านการคัดกรองแบบประเมินการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ในวันที่มาพบพนักงานคุมประพฤติ หากพบว่า มีความเสี่ยงสูงในการติดสุรา กรมคุมประพฤติจะส่งเข้ารับการบำบัดรักษา ณ สถานพยาบาล
สำหรับผู้กระทำผิดที่มีความเสี่ยงต่อการกระทำผิดซ้ำหรือมีประวัติการกระทำผิดซ้ำ ต้องเข้ารับการแก้ไขฟื้นฟูแบบเข้มข้นในรูปแบบค่ายปรับ เปลี่ยนพฤติกรรมเป็นระยะเวลา 3 วันต่อเนื่องและยังคงต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขการคุมความประพฤติ อาทิ รายงานตัวต่อพนักงานคุมประพฤติ และทำงานบริการสังคม ที่ให้ตระหนักถึงผลกระทบที่เกิดจากการเมาแล้วขับ เช่น การดูแลเหยื่ออุบัติเหตุ การปรับภูมิทัศน์ถนนสายหลัก สายรอง บริเวณจุดเสี่ยง เพื่อป้องกันอุบัติเหตุ
ในช่วงเวลาที่มีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้การจัดกิจกรรมต่างๆ ได้มีการเลื่อนนัดหมายออกไปก่อนจนถึง 30 เมษายนนี้ และในระหว่างนี้ พนักงานคุมประพฤติจะประเมินความถนัดและศักยภาพของผู้ถูกคุมความประพฤติแต่ละราย เพื่อนำมาจัดกิจกรรมให้เหมาะสม เช่น ผู้ที่มีความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษ หรือผู้ที่มีความสามารถด้านดนตรี หรือ ศิลปะ ก็จะนำทักษะเหล่านั้น มาใช้ในการทำงานบริการสังคม หรือคัดเลือกเข้ากิจกรรมในโครงการทูบีนัมเบอร์วัน ต่อไป
การส่งบำบัดอาการติดสุรา และการจัดค่ายแก้ไขฟื้นฟูผู้ถูกคุมความประพฤติในฐานความผิดขับรถขณะเมาสุราแบบเข้มข้น ต้องรอให้สถานการณ์ของการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 คลี่คลาย การปรับเปลี่ยนกิจกรรมการแก้ไขฟื้นฟูจึงเป็นการให้คำปรึกษาเฉพาะราย และการให้การสงเคราะห์เฉพาะหน้าตามสภาพปัญหาความต้องการของผู้ถูกคุมความประพฤติ ในรายที่ไม่มาพบพนักงานงานคุมประพฤติตามนัดหมาย พนักงานคุมประพฤติจะดำเนินการเตือน และติดตาม และหากยังฝ่าฝืนก็รายงานผิดเงื่อนไขต่อศาล เพื่อนำโทษจำคุกที่รอไว้มาใช้กับผู้ถูกคุมความประพฤติรายดังกล่าว .-สำนักข่าวไทย