รัฐสภา 30 ธ.ค. – ประธาน กรธ. ขอประชาชน พรรคการเมือง องค์กรอิสระเตรียมพร้อมเลือกตั้ง และการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ยอมรับประเมินกำหนดเวลาเลือกตั้งยาก ย้ำยึดตามโรดแม็ป
นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมในช่วงการเปลี่ยนผ่าน เพื่อรับมือต่อกฎหมายใหม่ ๆ ว่า ที่ผ่านมาทุกคนตระหนักดีว่าการเมืองไทยไม่มีเสถียรภาพ ซึ่งอาจเกิดจากทั้งคน และระบบ รวมถึงความไม่สอดคล้องระหว่างกฎ กติกา วัฒนธรรม และวิถีชีวิตของคนไทย ที่หลายอย่างไม่สอดคล้องกับสังคมไทย กรธ. จึงได้กำหนดกลไกใหม่ในร่างรัฐธรรมนูญ ขอให้ทุกคนเข้าใจว่า กรธ. ไม่ได้จงใจทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งด้วยความรังเกียจพรรคการเมือง หรือนักการเมือง แต่มุ่งมั่นให้การเมืองอยู่ในระบบที่เป็นไปเพื่อประโยชน์ของประชาชนอย่างแท้จริง และแก้ปัญหาที่มีในสังคม ที่เป็นต้นเหตุของความไม่สงบสุข ซึ่งกลไกดังกล่าวอาจเป็นเรื่องแปลกใหม่ แต่หากทุกคนทำตามกติกา ทุกคนก็จะไม่ได้รับโทษตามกฎหมาย
ประธาน กรธ. กล่าวว่า ขอให้ประชาชนชน เตรียมความพร้อมและรับรู้ต่อการเปลี่ยนแปลงของโลก โดยเฉพาะเทคโนโลยีใหม่ ๆ เพื่อให้สามารถเกิดประโยชน์ต่อตนเอง สังคม และประเทศ และไม่เป็นคนล้าหลัง จนทำให้เกิดความเสียเปรียบ ขณะที่พรรคการเมือง จะมีการเปลี่ยนแปลง พรรคการเมืองจะเป็นสถาบันที่ให้ประชาชนมีส่วนร่วม สามารถคัดเลือกบุคคลเข้าสมัครรับเลือกตั้งได้ ระบบใหม่ ประชาชนมีสิทธิจะไม่เลือกใครเลยก็ได้ จากเดิมที่ประชาชนไม่มีทางเลือกอื่น เพราะพรรคการเมืองคำนึงแต่คะแนนเสียงเป็นสำคัญ แต่ครั้งนี้ หากประชาชนไม่เลือกผู้แทนคนใดในการเลือกตั้งซ่อมนั้น ผู้แทนก็ไม่สามารถลงสมัครรับเลือกตั้งซ่อมได้
นายมีชัย กล่าวว่า สำหรับองค์กรอิสระ ตนมองว่าที่ผ่านมาขาดประสิทธิภาพและความรวดเร็วในในการทำงาน จนบั่นทอนชื่อเสียงของหน่วยงาน ดังนั้น เมื่อกลไกในร่างรัฐธรรมนูญเปลี่ยนไป กลไกในกฎหมายลูกก็จะต้องเปลี่ยนแปลงตามด้วย เพื่อให้องค์กรอิสระทำงานได้รวดเร็ว องค์กรอิสระต่าง ๆ ก็จะต้องปรับกลยุทธ์ในการทำงานเพื่อให้สอดคล้องกับกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญด้วย
ประธาน กรธ. ยังกล่าวถึงเงื่อนไขระยะเวลาการกลับเข้าสู่ระบบประชาธิปไตยของประเทศ ว่า ประเมินได้ยาก เพราะต้องคำนึงถึงความพร้อมของพรรคการเมือง และคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในการเตรียมความพร้อมเข้าสู่การเลือกตั้ง แต่ยืนยันว่า กรธ. ได้พิจารณายกร่างกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ โดยยึดโรดแม็ป ของรัฐบาล ซึ่ง กรธ. ได้ยกร่างกฎหมาย กกต. และพรรคการเมืองก่อน เพื่อให้ปรับตัว ให้สอดคล้องกับกฎเกณฑ์ใหม่ ๆ ในกฎหมายลูก
นายมีชัย กล่าวว่า ในร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง ได้กำหนดระยะเวลา สำหรับการเตรียมความพร้อมของพรรคการเมืองไว้ 180 วัน หากพรรคการเมืองดำเนินการได้เสร็จสิ้นก่อน ก็จะทำให้การเลือกตั้งเกิดขึ้นได้เร็วแต่ขึ้นอยู่กับความพร้อมในวันข้างหน้าด้วย จึงไม่สามารถยืนยันแทนใครได้ว่า การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในช่วงปลายปี 2560 หรือ ต้นปี 2561 แต่จะต้องยึดตามโรดแม็ป ของรัฐบาลเป็นสำคัญ และ กรธ. ก็จะต้องยกร่างกฎหมายลูกทั้ง 10 ฉบับ ให้เสร็จสิ้นภายใน 240 วัน หลังร่างรัฐธรรมนูญมีผลบังคับใช้
ประธาน กรธ. ยังกล่าวถึงความเหมาะสมต่อการปลดล็อคคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ห้ามพรรคการเมืองดำเนินกิจกรรมทางการเมืองว่า เมื่อร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง และ กกต. มีผลบังคับใช้ เชื่อว่า คสช. จะพิจารณาว่าจะดำเนินการผ่อนคลายให้พรรคการเมืองได้เมื่อใด
ส่วนการคงอำนาจตามมาตรา 44 ให้มีผลบังคับใช้ได้จนกว่าจะมีรัฐบาลใหม่ จะเป็นอุปสรรคต่อการเข้าสู่การกลับเข้าสู่ประชาธิปไตยหรือไม่นั้น นายมีชัย กล่าวว่า คสช. คงอำนาจไว้ เพื่อแก้วิกฤต และเป็นเครื่องมือในการบริหารประเทศ ไม่ใช่การสกัดกั้นพรรคการเมือง ในการเดินหน้าเข้าสู่การเลือกตั้ง และเชื่อว่า คสช. คงตระหนักและพิจารณา ว่าจะคลี่คลายมาตรา 44 หลังกฎหมายพรรคการเมือง และ กกต. พิจารณาเช่นกัน
“ไม่สามารถรับประกันได้ว่า ร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ จะไม่ทำให้เกิดวิกฤตการณ์ในอนาคต เพราะต้องขึ้นอยู่กับประชาชนทุกคน ที่จะต้องร่วมมือ หันหน้าเข้าพูดคุยกันทำให้การเมืองสุขสงบ และนำความเจ็บปวดในอดีตมาเป็นบทเรียน”นายมีชัย กล่าว .-สำนักข่าวไทย