กทม 15 เม.ย.- ‘เชาว์’ บี้รัฐบาลเดินหน้าวัคซีนทางเลือก อย่าลืมวัคซีนสำหรับคนไม่มีทางเลือก วอนฉีดให้คนจนเมืองก่อน เหตุเสี่ยงรับ-แพร่เชื้อ กระจายเร็ว จวก ฉีดวัคซีนสุดอืด ไม่ถึงพันคนต่อวัน จี้ ทบทวนแผนฉีดวัคซีน กระทุ้ง กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เร่งตรวจ 1 ล้านโดส ให้นำมาใช้ได้โดยเร็ว
นายเชาว์ มีขวด อดีตรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ Facebook Chao Meekhuad เรื่อง เดินหน้าวัคซีนทางเลือก อย่าลืมวัคซีนสำหรับคนจนชุมชนที่ไม่มีทางเลือก มีเนื้อหาระบุว่า หลังสงกรานต์เราคงได้เห็นการเดินหน้าเต็มสูบเพื่อจัดหาวัคซีนทางเลือกให้โรงพยาบาลเอกชน มาดำเนินการให้คนที่มีความพร้อมด้านกำลังทรัพย์ ซึ่งจะช่วยลดงบประมาณภาครัฐ และเพิ่มภูมิคุ้มกันให้กับคนไทย ผมเห็นด้วยว่าควรเร่งดำเนินการเรื่องนี้หลังจากช้ามาหลายเดือน แต่ที่ไม่อยากให้ลืมคือ วัคซีนสำหรับคนไม่มีทางเลือก โดยเฉพาะพี่น้องในชุมชนแออัดหรือสลัม และผู้ที่ด้อยโอกาส ซึ่งไม่ได้มีเงินมากพอที่จะไปฉีดวัคซีนเข็มละ 2,000 บาท จึงต้องรอการจัดสรรจากภาครัฐ ซึ่งในปัจจุบันเรามีวัคซีน นำเข้ามากว่า 2.1 ล้านโดส ฉีดให้ประชาชนไปแล้วเกือบ 6 แสนโดส หัก 1 ล้านโดสที่เพิ่งนำเข้ามายังรอการตรวจพิสูจน์ของกรมการแพทย์ไม่สามารถนำมาใช้ได้อีก 1 ล้านโดส เท่ากับตอนนี้เหลืออีกประมาณ 5 แสนโดสที่ต้องเร่งกระจายฉีดให้ประชาชนโดยเร็วแต่ภาครัฐยังดำเนินการในเรื่องนี้ช้ามาก ดังจะเห็นได้จากตัวเลขการฉีดวัคซีนเมื่อวันที่ 14 เมษายนที่ผ่านมามีผู้รับวัคซีนในวันดังกล่าวเข็มแรกเพียงแค่ 529 คน และเข็มที่สอง 224 คน รวม 1 วันฉีดวัคซีนให้ประชาชนได้ไม่ถึง 1,000 คนด้วยซ้ำ ผมคิดว่าผู้ที่เกี่ยวข้องต้องทบทวนแผนบริหารจัดการกระจายวัคซีนโดยด่วน โดยเร่งให้มีการฉีดวัคซีนให้ได้จำนวนมากๆ ในเวลาที่รวดเร็วรวมถึงกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ต้องเร่งรัดตรวจพิสูจน์วัคซีน 1 ล้านรถที่เข้ามาใหม่เพื่อให้นำมากระจายให้กับประชาชนอย่างทั่วถึง
นายเชาว์ระบุด้วยว่า มีตัวเลขเป็นที่แน่ชัดแล้วว่าประเทศที่ได้รับการฉีดวัคซีนเฉลี่ยสูงสุดต่อประชากร อย่างเช่น ประเทศอิสราเอล ที่ประชากรได้รับวัคซีนเฉลี่ยสูงสุด 118 dose ต่อประชากร 100 คน มีอัตราการติดเชื้อรายวันล่าสุด จากสูงสุด 11,316 คน ลดลงเหลือ 270 คน ประเทศอังกฤษได้รับวัคซีน 59 คน ต่อประชากร 100 คน อัตราการติดเชื้อรายวันล่าสุด จากสูงสุด 67,928 คน เหลือเพียง 3,567 คน ประเทศอเมริกาได้รับวัคซีน 55 คนต่อประชากร 100 คน อัตราการติดเชื้อรายวันล่าสุด จากสูงสุด 309,035 คน ลดลงเหลือ 56,892 คน
“จากสถิติดังกล่าวเป็นตัวชี้วัดได้ว่าการได้รับวัคซีนสามารถลดจำนวนผู้ติดเชื้อได้ผลจริง ผมคิดว่าวัคซีนที่มีอยู่และกำลังจะเข้ามา นอกจากการฉีดให้กับกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงแล้ว กลุ่มคนจนที่อาศัยอยู่ในชุมชนแออัดหรือสลัมในกรุงเทพมานคร มีความเสี่ยงสูงในการแพร่ระบาดมาก หากมีใครติดเชื้อขึ้นมาจะแพร่ระบาดอย่างรวดเร็ว ถ้าจะให้รอคงจะเข้าถึงยากกว่าคนรวยหรือชนชั้นกลางที่มีเงินและเส้นสายในการเข้าถึงมากกว่า โอกาสที่จะตายก่อนมีมาก จึงอยากจะขอให้เร่งฉีดวัคซีนให้คนจนในชุมชนแออัดหรือคนจนเมืองที่ไม่มีทางเลือกด้วยครับ” นายเชาว์ระบุทิ้งท้าย.-สำนักข่าวไทย