พะเยา 7 เม.ย.- หน้าแล้งแบบนี้ชาวสวนยางพาราอยู่ในช่วงปิดกรีดกันแล้ว ทำให้บางส่วนขาดรายได้ แต่สำหรับชาวสวนยางที่อำเภอภูซาง จังหวัดพะเยา ยังมีรายได้เสริมจากการเลี้ยงผึ้งโพรงคนละนับหมื่นบาท และยังสามารถพัฒนาต่อยอดไปสู่ผลิตภัณฑ์สร้างรายได้ให้ชุมชนด้วย ติดตามจากรายงานคุณมนตรี ตระกูลสมบัติ
สวนยางพาราที่บ้านทุ่งกล้วยในอำเภอภูซาง จังหวัดพะเยา เริ่มผลัดใบในหน้าแล้ง ชาวสวนหยุดกรีดเพื่อให้ต้นยางพักตัว แต่ชาวสวนยางพาราที่นี่ ยังมีรายได้เสริมจากการเลี้ยงผึ้งโพรงในสวนยาง อย่างพี่ไพบูลย์ เจ้าของสวนยางแห่งนี้ที่วางกล่องเลี้ยงผึ้งโพรง ไว้ในสวนยางกว่า 10 กล่อง บางกล่องเริ่มมีรังผึ้งเต็มแล้ว แกะกล่องนำน้ำผึ้งขายในราคากิโลกรัมละ 150 บาท กล่องหนึ่งจะได้ 7-15 กิโลกรัมแล้วแต่ช่วง แต่ส่วนใหญ่จะเก็บในเดือน 5 ซึ่งเป็นช่วงที่น้ำผึ้งหวานที่สุด
พี่ไพบูลย์ เลี้ยงผึ้งโพรงในสวนยาง มา 3 ปี บอกว่า เลี้ยงไม่ยาก แทบไม่ต้องลงทุน ใช้เศษไม้มาทำกล่องเลี้ยงผึ้งโพรง ซึ่งเป็นผึ้งป่าตามธรรมชาติที่มีทุกภาคอยู่แล้ว ปกติทำรังอยู่ตามโพรงไม้โพรงผิน แต่พื้นที่วางกล่องต้องร่มรื่น อากาศถ่ายแทสะดวกและใกล้แหล่งน้ำ เพื่อให้ซึ่งเหมาะสมสำหรับการทำรัง แต่แรกๆ อาจจะมีเจ็บตัวจากผึ้งต่อยบ้าง แต่หลังๆ เริ่มชินและใส่เครื่องป้องกัน ปีๆ หนึ่งมีรายได้จากการเลี้ยงผึ้ง 10,000 กว่าบาท เป็นรายได้เสริมจากยางพารา
ชาวบ้านที่นี่เริ่มเลี้ยงผึ้งโพรงในสวนยางมาตั้งแต่ 4-5 ปีก่อน จาก 4-5 ราย จนการยางแห่งประเทศไทย หรือ กยท.จังหวัดพะเยา นำผู้เชี่ยวชาญมาให้ความรู้ชาวสวน จนตอนนี้มีสมาชิกเกือบ 40 คน มีกล่องเลี้ยงผึ้งรวมกว่า 1,000 กล่อง และตั้งเป็นกลุ่มเลี้ยงผึ้ง ผลิตน้ำผึ้งแท้ ขายขวดละ 250 บาท ปีๆ หนึ่งขายน้ำผึ้งได้กว่า 2 แสนบาท
จากผึ้งตัวเล็กๆ ที่เลี้ยงไว้ในสวนยาง ที่ให้น้ำผึ้งแท้คุณภาพดีนำมาบรรจุขวดขายแล้ว น้ำผึ้งส่วนหนึ่งยังแบ่งขายให้กับกลุ่มแม่บ้านทุ่งกล้วย เพื่อใช้เป็นวัตถุดิบนำไปทำเป็นสบู่ก้อน สบู่เหลว และขี้ผึ้ง กลายเป็นสินค้าโอทอปขึ้นชื่อของชุมชน นำออกขายตามงานต่างๆ ช่วงโควิด-19 ก็ขายทางออนไลน์ โดยการยางแห่งประเทศไทยเข้าไปช่วยด้านการตลาดด้วย กลายเป็นรายได้เสริมให้กับกลุ่มแม่บ้านอีกทางหนึ่ง.-สำนักข่าวไทย