ทำเนียบรัฐบาล 4 ม.ค. – นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบแก้ไขร่าง พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน…พ.ศ… เนื่องจากกฎหมายเดิมบังคับใช้มานานกว่า 20 ปี และต้องการให้สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน โดยมีสาระสำคัญ เช่น มาตรา 118/1 กำหนดให้การเกษียณอายุเป็นการเลิกจ้างและหากไม่ได้ตกลงหรือกำหนดการเกษียณอายุลูกจ้างไว้ นายจ้างให้ลูกจ้างเกษียณอายุทำงาน 60 ปี เนื่องจากบางองค์กร บริษัทกำหนดเกษียณอายุ 55 ปี ดังนั้น เมื่อการเกษียณอายุทำงานเสมือนกับการเลิกจ้างต้องได้รับเงินชดเชยเหมือนกับการถูกเลิกจ้าง เพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้กับลูกจ้างเมื่อทำงานกับนายจ้างจนเกษียณอายุทำงาน
ทั้งนี้ กฎหมายดังกล่าวครอบคลุมทุกสภาพการจ้างงาน ทั้งมีสัญญาและไม่มีสัญญาจ้าง ทั้งคนขับรถ แม่บ้าน แรงงานทั่วไป การจ้างนทั่วไป หากทำงานอยู่ด้วยกันจนเกษียณจะอยู่ภายใต้กฎหมายดังกล่าว แม้จะเขียนสัญญาข้อตกลงร่วมกันใหม่เพิ่ม แต่ต้องให้ประโยชน์ไม่ต่ำกว่า พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงานกำหนด และการแก้ไขร่างกฎหมายดังกล่าว ครม.ได้แก้ไขให้สอดคล้องกับคำพิพากษาแล้ว ดังนั้น ทุกสภาพการจ้างงาน ทั้งหน่วยงาน รัฐวิสาหกิจ เอกชน ทุกการจ้างหากแรงงานทำงานด้วยกันจนครบเกษียณอายุต้องทำการจ่ายชดเชยตามที่ พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน กำหนดไว้ เช่น อายุงานมากกว่า 10 ปี ได้รับการชดเชย 10 เดือน หรือ 300 วัน หากทำงาน 6 ปีถึง 10 ปี ได้รับการชดเชย 8 เดือน อายุงาน 3 ปี จ่ายชดเชย 6 เดือน จากปัจจุบันมีผู้เกษียณอายุทำงานเฉลี่ยประมาณ 300,000-400,000 คนต่อปี โดยยึดตามกฎหมายฉบับปัจจุบันกำหนดไว้ หากไม่ดำเนินการมีโทษทั้งทางแพ่งและอาญา ทางแพ่งโทษปรับสูงสุดตามค่าชดเชยที่ค้างรวมดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปี หรือคิดเงินเพิ่มร้อยละ 15 ตามยอดเงินผิดนัดชำระ 7 วัน สำหรับโทษทางอาญาจำคุกสูงสุด 6 เดือน หรือทั้งจำและปรับไม่เกิน 100,000 บาท รวมทั้งบริษัทเอกชนนายจ้างที่มีลูกจ้าง 10 คนขึ้นไปไม่ต้องจัดส่งแผนการดำเนินการตามข้อบังคับการจ้างงานมายังอธิบดีเพื่อทำการตรวจสอบ แต่ให้จัดเก็บข้อมูลเอาใช้ตรวจสอบ
นอกจากนี้ ยังกำหนดให้คณะกรรมการค่าจ้างขั้นต่ำกำหนดค่าจ้างครอบคลุมลูกจ้างทั้งนักเรียน นิสิต คนพิการ ผู้สูงอายุ เพื่อให้การกำหนดค่าจ้างครอบคลุมไปยังลูกจ้างทุกประเภท รัฐบาลต้องการผลักดันร่าง พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงานให้ผ่านสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) และให้มีผลบังคับใช้ทันเดือนพฤษภาคม เนื่องจากเป็นช่วงการเดินทางมาประเมิน เพื่อวัดการอำนวยความสะดวกการทำธุรกิจของธนาคารโลกและลดอุปสรรคต่อการดำเนินธุรกิจ.-สำนักข่าวไทย