กรุงเทพฯ 17 มี.ค.-จับตา!! ก้าวต่อไปกระบวนการต่อสู้ทางกฎหมาย คดีค่าโง่โฮปเวลล์ 2.4 หมื่นล้านบาท หลังศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยที่มาของการพิจารณาคดี ตามมติที่ประชุมใหญ่ศาลปกครองสูงสุด ไม่เป็นไปตามระเบียบ พ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครอง ทำให้ที่มาการพิจารณาคดีขัดกับรัฐธรรมนูญ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในวันนี้วันนี้ (17 มีนาคม พ.ศ. 2564 ) ศาลรัฐธรรมนูญได้ประชุมปรึกษาคดีที่สำคัญและเป็นที่สนใจ ตามที่ ผู้ตรวจการแผ่นดิน (ผู้ร้อง) ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 213 (เรื่องพิจารณาที่ ต. 59 /2563) ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 213 ว่า มติที่ประชุมใหญ่ตุลาการในศาลปกครองสูงสุด ครั้งที่ 18/2545 (วันพุธที่ 27 พฤศจิกายน 2545 )ซึ่งผู้ร้องอ้างว่าเป็นระเบียบตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2542 มาตรา 44 แต่มิได้ดำเนินการตามมาตรา 5 และมาตรา 6 วรรคหนึ่ง จึงขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 3 วรรคสอง มาตรา 5 วรรคหนึ่ง มาตรา 25 วรรคสาม มาตรา 188 และมาตรา 147 ขอให้สั่งเพิกถอนมติหรือการกระทำดังกล่าว
ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาแล้วมีคำสั่งรับไว้พิจารณาวินิจฉัย และให้ศาลปกครองสูงสุด ส่งเอกสารรายงานการประชุมตามมติที่ประชุมใหญ่ตุลาการในศาลปกครองสูงสุดครั้งดังกล่าว รวมทั้งระเบียบและเอกสารที่เกี่ยวข้อง มาพิจารณา ต่อมาศาลปกครองสูงสุดส่งหนังสือชี้แจงและเอกสารที่เกี่ยวข้องต่อศารัฐธรรมนูญรวม 2 ครั้ง ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งรับรวมไว้ในสำนวน ผลการพิจารณาการประชุมคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเพื่อแถลงด้วยวาจา ปรึกษาหารือ และลงมติในวันนี้ โดยครบองค์คณะของศาลรัฐธรรมนูญ ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 มาตรา 52 วรรคสอง ที่บัญญัติว่า องค์คณะของศาลในการพิจารณาคดีและในการทำคำวินิจฉัย ต้องประกอบด้วยตุลาการไม่น้อยกว่า 7 คน ( เนื่องจากศาลรัฐธรรมนูญอนุญาตให้ นายบรรจงศักดิ์ วงศ์ปราชญ์ ถอนตัวจากการพิจารณาคดีนี้ตั้งแต่ต้นตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ
ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561มาตรา 34 ประกอบมาตรา 32(1) และนายวรวิทย์ กังศศิเทียมประธานศาลรัฐธรรมนูญ ป่วยเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลจึงไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ได้ ที่ประชุม คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเลือก นายทวีเกียรติ มีนะกนิษฐ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ทำหน้าที่แทนประธานศาลรัฐธรรมนูญตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561มาตรา 18 วรรคสี่)
โดยศาลรัฐธรรมนูญโดยมติเสียงข้างมากวินิจฉัยว่า มติที่ประชุมใหญ่ตุลาการในศาลปกครองสูงสุด ครั้งที่ 18/2555 (วันที่ 27 พฤศจิกายน 2556) เรื่อง ปัญหาเกี่ยวกับระยะเวลาการฟ้องคดีปกครองเป็นการออกระเบียบตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2542 มาตรา 44 แต่มิได้ดำเนินการตามมาตรา 5 และมาตรา 6 วรรคหนึ่ง จึงขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 3 วรรคสอง และมาตรา 197 วรรคสี่
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ระบุว่าหลังจากนี้จะรอคำวินิจฉัยอย่างเป็นทางการของศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งคาดว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีการส่งคำวินิจฉัย กลับมาที่ผู้ตรวจการแผ่นดินในฐานะผู้ร้อง ก่อนที่ผู้ตรวจการแผ่นดิน จะส่งคำวินิจฉัย กลับมายังกระทรวงคมนาคม ซึ่งหลังจากนั้น คณะทำงานติดตามคดีฯ ที่กระทรวงคมนาคมแต่งตั้งขึ้นจะมีการพิจารณาการดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป.-สำนักข่าวไทย