พล.ต.ท และ พ.ต.อ.ไม่เกี่ยวขนไอซ์ 1,500 กก.

กทม.-5 มี.ค.-ผบ.ตร.แจงผลสอบ ไม่พบ พล.ต.ท. และ พ.ต.อ. เอี่ยวค้ายาไอซ์ 1,500 กิโลกรัม จากคำซัดทอดของผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมเมื่อตุลาคม 2562  


หลังสังคมตั้งข้อสงสัยกรณีมีการเปิดเผยเอกสารทางราชการซึ่งเป็นข้อสั่งการของพลตำรวจเอกสุชาติ ธีระสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่ส่งถึงผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 6 ให้ทำเรื่องรายงานชี้แจงกรณีพนักงานสอบสวน สภ.แม่สอด จังหวัดตาก ทำสำนวนจับกุมผู้ต้องหาลักลอบขนไอซ์ น้ำหนัก 1,500 กิโลกรัม ส่งฟ้องต่ออัยการ โดยไม่มีการสอบสวนตำรวจ 2 นาย ที่ผู้ต้องหาให้การซัดทอด จนกลายเป็นข่าวครึกโครมว่าเกิดความขัดแย้งขึ้นในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

พลตำรวจเอกสุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมผู้ที่เกี่ยวข้องกับการตรวจสอบข้อเท็จจริง ตัวแทนจาก ป.ป.ส. และ ปปง. ร่วมกันแถลงผลตรวจสอบกรณีดังกล่าว ระบุว่า เอกสารที่ปรากฎเป็นกระแสข่าว เป็นเพียงส่วนหนึ่งในการสืบสวนข้อเท็จจริง  จึงทำให้สังคมเกิดความเข้าใจผิด โดยคดีที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ มีทั้งที่ศาลตัดสินไปแล้ว และอยู่ระหว่างการดำเนินคดี


แต่ยอมรับว่า เรื่องนี้ทำให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้รับความเสียหาย ส่วนตัวไม่คิดว่าเป็นความขัดแย้งของคนในองค์กร อีกทั้งตำรวจทั้ง 2 นายที่ถูกสังคมตั้งข้อสังเกต ยังเห็นพูดคุยกันเป็นปกติ

ส่วนการตรวจสอบเส้นทางการเงินเครือข่ายค้ายาเสพติดตั้งแต่ปี 2557-2563 ที่มีเงินหมุนเวียนกว่า 2,000 ล้านบาท ยังไม่พบว่าเชื่อมโยงไปถึง 2 นายตำรวจที่เป็นข่าว และมองว่าหากมีการกระทำผิดจริงไม่น่าจะช่วยเหลือกันง่าย เพราะมีหลายหน่วยงานตรวจสอบ

ขณะที่พันตำรวจเอกสราวุธ คนใหญ่ รองผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนภูธร ภาค 6 อธิบายว่า คดีจับกุมผู้ค้ายาเสพติด เริ่มต้นจากปี 2557 – 2563 โดยในปี 2557 มีการจับกุมผู้ค้ารายใหญ่ที่ชื่อนายฐาปนันท์ ธรรมรัตน์ธาดา มีหมายจับติดตัวกว่า 56 คดี ซึ่งระหว่างการดำเนินคดีมนชั้นศาล ได้หลบหนีการจับกุมในชั้นศาลไปฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน จากนั้น ปี 2562 มีการจับกุมไอซ์ 1,500 กิโลกรัม ที่เชื่อมโยงกับนายฐาปนันท์ และต่อมาตำรวจขยายผลไปจับกุมเจ้าของอู่ดัดแปลงรถใช้ขนไอซ์ได้ในปี 2563 ได้ จากนั้นมีการจับกุมนายเกิดชนะ ผู้ต้องหาอีกรายในคดีนี้ ซึ่งเคยให้การพาดพิงถึงพลเรือน 4 คน ข้าราชการ 4 คน ซึ่งการสอบสวนทำให้ตำรวจสามารถดำเนินคดีกับนายหลินซาร์ ผู้ค้ายาเสพติด รายสำคัญอีกราย


ส่วนการตรวจสอบหลักฐานทางการสืบสวนยังไม่พบความเชื่อมโยงกับตำรวจทั้งสองนาย แต่ในทางการสืบสวนยังต้องมีการสืบสวนต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เชียงใหม่อากาศแปรปรวน เจอลมหนาว-ฝนตก 3 วันติด

ชาวเชียงใหม่เจอลมหนาวและฝนตกต่อเนื่อง 3 วันติด อุตุฯ ย้ำอากาศแปรปรวน เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน เชียงราย ยังมีฝนตกและลมหนาว แนะรักษาสุขภาพ

“อัจฉริยะ” ยื่นสอบปม “ทนายตั้ม” ปูดข่าวผู้บริหารปลอมเอกสารขยายอายุเกษียณ

“อัจฉริยะ” ยื่นหนังสือตรวจสอบข้าราชการช่วยผู้บริหารรัฐวิสาหกิจปลอมเอกสารขยายอายุเกษียณ คาดอาจมีทนายดังเข้าไปเอี่ยว เสนอตำรวจให้สอบพยานรายสำคัญที่เป็นประโยชน์กับ “มาดามอ้อย”

“ทนายตั้ม” เครียดหนัก หลัง 3 บิ๊ก บช.ก. สอบปากคำ

“ทนายตั้ม” เครียดหนัก หลัง 3 บิ๊กสอบสวนกลาง สอบปากคำ นานกว่า 5 ชั่วโมง ขณะที่พนักงานสอบสวนเตรียมเข้าค้น “ษิทรา ลอว์ เฟิร์ม” เช้าพรุ่งนี้ หาหลักฐานเพิ่ม ก่อนฝากขังช่วงบ่าย ค้านประกันตัว

“บิ๊กอ้อ” เผย “ทนายตั้ม-ภรรยา” มีพฤติการณ์หนี-ยุ่งเหยิงพยานฯ

“บิ๊กอ้อ” ชี้ตำรวจต้องออกหมายจับ “ทนายตั้ม” เหตุพบพฤติการณ์เตรียมหลบหนีออกนอกประเทศ และยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน นอกจากนี้ยังมีคดีต่อเนื่อง 3 คดี เตรียมแจ้งข้อหาเพิ่ม

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผย “เหนือ-อีสาน” อากาศเย็นตอนเช้า-ภาคใต้ฝนหนัก

กรมอุตุฯ เผย “เหนือ-อีสาน” อากาศเย็นในตอนเช้า เตือนภาคใต้ฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง พร้อมอัปเดตเส้นทางพายุ “หยินซิ่ง”

MOU44

MOU 44 ผลประโยชน์ชาติ กับ การเมือง ตอนที่ 1

ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา เรื่องเอ็มโอยู 44 และเส้นแบ่งอาณาเขตทางทะเล หรือเส้นเคลม กลายเป็นปมร้อน ท่ามกลางความกังวลถึงผลประโยชน์ของชาติทางทะเล และสิทธิเหนือเกาะกูด ติดตามความเห็นและมุมมองจากผู้เกี่ยวข้องในรายงาน “ปมร้อน เอ็มโอยู 44 ผลประโยชน์ชาติ กับ การเมือง”

ทนายตั้ม

“ทนายตั้ม” สร้างตัวตนผ่านสื่อ หวังหาผลประโยชน์หรือไม่

หลังจากพนักงานสอบสวนควบคุมตัว “ทนายตั้ม” และภรรยา เข้าเรือนจำไปแล้ว มีคำถามตามมาว่า ทนายคนดังสร้างตัวตนจนโดดเด่นในสังคม เพื่อหาผลประโยชน์จากความน่าเชื่อถือที่สร้างไว้หรือไม่