กรุงเทพฯ 23 ก.พ.- กลุ่มบางจากฯ คาดผลการดำเนินงานในไตรมาส 1 ปี 2564 สดใส พลิกฟื้นจากปี 2563 ได้อย่างรวดเร็ว มั่นใจกำไรสตอกจากราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ปรับตัวสูงขึ้น เล็งกลั่นเต็มที่ หลังภาครัฐคลายเข้มงวดสถานประกอบการ คุม โควิด-19
นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงแนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาสที่ 1 ปี 2564 ของบางจากฯ ว่าในภาพรวมจะออกมาดีเกินความคาดหมาย หลักๆ เป็นผลจากกำไรจากการ สตอก น้ำมัน (stock gain) โดยทั้ง ทุกธุรกิจมีผลประกอบการที่ดีขึ้น วางแผนรุกในทุกมิติเพื่อการเติบโตต่อเนื่อง ย้ำแนวคิด 3Rs – Refocus: การเร่งการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาด Restructure: การปรับองค์กรเพื่อสร้างช่องทางในการเข้าถึงตลาดและลูกค้า และ Reimagine: การคิดนอกกรอบ และนำนวัตกรรมมาสร้างความแกร่งให้กลุ่มธุรกิจ
ทั้งนี้ ในส่วนกลุ่มธุรกิจโรงกลั่นและการค้าน้ำมัน ผลจากการควบคุมการผลิตของกลุ่มโอเปก ทำให้ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้น และคาดว่าเมื่อธุรกิจต่างๆ เปิดดำเนินการมากขึ้นแล้ว จะมีความต้องการของผู้บริโภคเพิ่มขึ้น จึงมีการวางแผนการกลั่นอย่างเต็มที่ โดยหลังจากการซ่อมบำรุง (15 กุมภาพันธ์ – 25 มีนาคม 2564) โรงกลั่นบางจากมีแผนที่จะกลั่นในระดับสูงกว่า 120,000 บาร์เรลต่อวัน ส่วนกลุ่มธุรกิจทรัพยากรธรรมชาติและการลงทุนในธุรกิจใหม่ๆ ธุรกิจต้นน้ำที่ได้รับประโยชน์จากการปรับตัวขึ้นของราคาน้ำมัน ในขณะที่ Winnonie ที่จะเป็นแพลตฟอร์มใหม่สำหรับมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าที่ตั้งเป้าขยายผู้ใช้งานเพิ่มขึ้นเป็น 1,000 รายในปี 2564 จาก 40 รายในปี 2563 โดยมีเป้าหมายระยะยาวในปี 2573 ส่งเสริมให้มีรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าในประเทศในไม่ต่ำกว่า 200,000 ราย
กลุ่มธุรกิจพลังงานไฟฟ้า มุ่งเน้นการสร้างสมดุลของ portfolio โดยการขยายการลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ทั้งในประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค กลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์ชีวภาพ มุ่งเน้นการขยายธุรกิจจาก B2B (Business-to-Business) เป็น B2C (Business-to -Customers) บุกตลาดผู้บริโภคโดยตรงด้วยการลงทุนธุรกิจผลิตภัณฑ์ชีวภาพมูลค่าสูงใน Manus Bio Inc. เน้นการทำแผนการตลาดสำหรับผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น สารให้ความหวาน ที่บีบีจีไอมีสิทธิ์แต่เพียงผู้เดียวในการขายและลงทุนในเอเชียเหนือและตะวันออกเฉียงใต้
นอกจากนี้ บางจากฯ ยังให้ความสำคัญกับการลดภาวะโลกร้อน ถือเป็นองค์กรลำดับแรกๆ ของประเทศที่ประกาศเจตนารมณ์ตั้งเป้าลดการปล่อยคาร์บอนเป็นศูนย์ มีเป้าหมายในปี 2573 และอยู่ในระหว่างการหารือกับหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชนในการผลักดันตลาดซื้อขายคาร์บอน เพื่อทำให้การซื้อขายคาร์บอนเป็นรูปธรรมมากขึ้น
“นับว่าเราเริ่มต้นปี 2564 ได้อย่างสดใส และพร้อมที่จะพุ่งทะยานไปข้างหน้าในทุกธุรกิจ สู่การเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานในระยะยาว โดยมีเป้าหมายหลักๆ ใน 3 ธุรกิจคือ ห่วงโซ่มูลค่าลิเทียม ห่วงโซ่มูลค่าพลังงานสีเขียว และ ห่วงโซ่มูลค่าธุรกิจชีวภาพ” นายชัยวัฒน์ กล่าว -สำนักข่าวไทย
—————–