โซล 4 ม.ค. – เกาหลีใต้ขยายคำสั่งห้ามการรวมตัวของประชาชนในที่พักอาศัยเกิน 4 คนไปบังคับใช้ทั่วประเทศ และเพิ่มมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในกรุงโซลและพื้นที่โดยรอบหลังพบยอดผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 รายวันสูงกว่า 1,000 คนในรอบ 4 วันที่ผ่านมา
เกาหลีใต้เผชิญกับยอดผู้ป่วยติดเชื้อที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วจากการระบาดระลอกล่าสุด ซึ่งส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตพุ่งสูงขึ้นเช่นกัน สำนักงานควบคุมและป้องกันโรคเกาหลีหรือเคดีซีเอรายงานวันนี้ว่า พบผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ 1,020 คน ทำให้มียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสม 64,264 คน และผู้เสียชีวิตทั้งสิ้น 981 คน ขณะที่ทางการเกาหลีใต้เพิ่มการใช้มาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมในกรุงโซลและพื้นที่โดยรอบที่รวมถึงการควบคุมสถานที่ต่าง ๆ เช่น โบสถ์ ร้านอาหาร คาเฟ่ สกีรีสอร์ต และสถานที่พบปะอื่น ๆ นอกจากนี้ ยังพบว่ากว่าร้อยละ 60 ของยอดผู้ป่วยติดเชื้อรายวันเป็นผู้ที่ติดเชื้อในกรุงโซล จังหวัดคย็องกี และเมืองอินชอน ซึ่งเกิดการระบาดเป็นกลุ่มก้อนในสถานพยาบาลและเรือนจำ
ในขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรีชุง เซ-คยุน ของเกาหลีใต้กล่าวในที่ประชุมคณะรัฐบาลว่า เมื่อเกาหลีใต้ได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 เคดีซีเอน่าจะมีความพร้อมในกระบวนการทั้งหมดแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการแจกจ่าย การจัดเก็บ การฉีดวัคซีน ตลอดจนการติดตามอาการ เขายังเรียกร้องให้กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงมหาดไทยและความปลอดภัย และกระทรวงคมนาคมร่วมกันทำงานในการเร่งกระบวนการดังกล่าว และหลีกเลี่ยงปัญหาต่าง ๆ ในลักษณะเดียวกับที่เคยเกิดขึ้นในสหรัฐและบางประเทศของทวีปยุโรป ทั้งนี้ เกาหลีใต้วางแผนเริ่มฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ในเดือนกุมภาพันธ์ โดยจะฉีดวัคซีนให้แก่เจ้าหน้าที่สาธารณสุขและกลุ่มคนเปราะบางเป็นอันดับแรก อย่างไรก็ดี ทางการเกาหลีใต้ก็ยังถูกวิจารณ์เรื่องความล่าช้า เนื่องจากสหรัฐและสหภาพยุโรปได้เริ่มฉีดวัคซีนไปแล้ว. -สำนักข่าวไทย