ลอนดอน 29 ธ.ค.– วิทยาลัยสุขภาพและเวชศาสตร์เขตร้อนของมหาวิทยาลัยลอนดอนเผยผลการศึกษาว่า อังกฤษจำเป็นต้องฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ให้แก่ประชาชน 2 ล้านคนต่อสัปดาห์เพื่อเลี่ยงการการระบาดระลอกที่ 3
ผลการศึกษาของวิทยาลัยสุขภาพและเวชศาสตร์เขตร้อนของมหาวิทยาลัยลอนดอนระบุว่า หากทางการอังกฤษต้องการลดความตึงตัวของแผนกผู้ป่วยวิกฤตให้อยู่ในระดับที่ต่ำกว่าการระบาดระลอกแรก หนทางเดียวที่ทำได้ในตอนนี้คือ ต้องประกาศใช้มาตรการควบคุมระดับ 4 ทั่วประเทศ สั่งปิดโรงเรียนในเดือนมกราคม และฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ให้แก่ประชาชน 2 ล้านคนต่อสัปดาห์ หากยังไม่มีการฉีดวัคซีนให้ประชาชนเป็นวงกว้าง จะทำให้ยอดผู้ป่วยติดเชื้อ ยอดผู้เสียชีวิต ความตึงตัวของโรงพยาบาลและแผนกผู้ป่วยวิกฤตในปีหน้าอาจกลับไปอยู่ในระดับเดียวกับช่วงที่มีการระบาดระลอกแรก ดังนั้น การเร่งฉีดวัคซีนให้ชาวอังกฤษ 2 ล้านคนต่อสัปดาห์จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการป้องกันปัญหาดังกล่าว
ทางการอังกฤษรายงานวานนี้ว่า พบผู้ป่วยติดเชื้อเพิ่มขึ้น 41,385 คน ซึ่งเป็นตัวเลขผู้ป่วยติดเชื้อรายวันสูงสุดนับตั้งแต่เกิดการระบาดในประเทศ และมีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 357 คน ส่งผลให้มียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมกว่า 2.3 ล้านคน และผู้เสียชีวิตกว่า 71,000 คน นอกจากนี้ สำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติของอังกฤษหรือเอ็นเอชเอสยังเผยว่า อังกฤษมียอดผู้ป่วยติดเชื้อที่รักษาตัวในโรงพยาบาล 20,426 คน ซึ่งทำสถิติสูงกว่าตัวเลขผู้ป่วยรักษาตัวราว 19,000 คนในเดือนเมษายนที่ผ่านมาอีกด้วย. -สำนักข่าวไทย