กรุงเทพฯ 16 พ.ย.- ตำรวจกองปราบฯ แถลงจับ 2 ยี่ปั๊วหลอกชาวบ้านใน จ.สุรินทร์ ลงทุนขายลอตเตอรี่ สูญเงินกว่า 400 ล้านบาท สอบสวนผู้ต้องหาให้การภาคเสธ
ตำรวจกองปราบแถลงจับกุมนายทศพร จิตรแม้น และนายยุทธนา ทองคำ ผู้ต้องหาตามหมายจับคดีฉ้อโกงประชาชน หลังหลอกขายโควตาลอตเตอรี่แล้วเชิดเงินหนีไปกว่า 400 ล้านบาท ซึ่งตำรวจตามจับกุมได้ที่บ้านพักในจังหวัดลพบุรี พร้อมของกลางเงินสด 796,000 บาท สร้อยคอทองคำหนัก 3 บาท แหวนทองคำ รถจักรยานยนต์ และรถยนต์
หลังเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา มีผู้เสียหาย 80 ราย แจ้งความกับตำรวจ สภ.รัตนบุรี ให้ติดตามจับกุมคนร้ายที่หลอกขายโควตาลอตเตอรี่ 10 ราย ก่อนตำรวจไปตามจับกุมได้ 8 ราย เหลือนายทศพร และนายยุทธนา ที่ยังหลบหนี ผู้เสียหายจึงมาร้องเรียนก่อนจัดทีมสืบสวนลงพื้นที่และจับกุมได้ในที่สุด
จากการตรวจสอบประวัติพบเมื่อปี 2561 นายทศพร ยังเคยหลอกลวงชาวบ้านนับ 100 ราย โดยอ้างตนเป็นร่างทรงจะพาไปขุดมหาสมบัตินครจำปาศรี ในจังหวัดมหาสารคาม ก่อนหลบหนีหมายจับของ สภ.นาเชือก มาก่อเหตุหลอกลวงดังกล่าวในพื้นที่ จ.สุรินทร์
สอบสวนนายทศพร ให้การปฏิเสธ อ้างไม่ได้ชักชวนผู้เสียหายมาลงทุน ตนเป็นเพียงผู้ที่ซื้อลอตเตอรี่มาขายอีกทอดเท่านั้น ส่วนนายยุทธนา ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา บอกว่ารู้จักกับนายทศพร ตั้งแต่ปี 2562 ซึ่งตอนนั้นได้อ้างเป็นผู้ถือโควตาซื้อขายหวย ตนเองจึงร่วมลงทุนด้วย 3 ล้านบาท และเปิดบัญชีร่วมกันเพื่อใช้จ่ายตั้งแต่เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ซึ่งพบว่ามีเงินหมุนเวียนกว่า 200 ล้านบาท จากนี้จะสืบสวนขยายผลถึงผู้ร่วมขบวนการเพิ่มเติม เนื่องจากพบว่ามีการถอนเงินสดจำนวนมากออกจากบัญชีก่อนถูกจับกุม และเชื่อว่ายังมีทรัพย์สินอื่นๆ ที่คนร้ายนำไปซุกซ่อนที่อื่น ก่อนติดตามตรวจยึดตาม พ.ร.บ.มาตรการป้องกันปราบปรามการฟอกเงิน ต่อไป
พันตำรวจโทวิวัฒน์ ติตโสภากุล รองผู้กำกับ 3 กองบังคับการปราบปราม หัวหน้าชุดจับกุม กล่าวฝากเตือนประชาชนว่าทั่วประเทศไทยนั้น ผู้ที่มีโควตาลอตเตอรี่ทั้งประเทศมีเพียง 1.9 แสนคน ซึ่งไม่ต้องมีใบอนุญาตการขาย คนที่อยากขายจะต้องซื้อต่อจากผู้ที่มีโควตา จึงเกิดเป็นช่องว่างในการกระทำผิด ทั้งนี้ หากพบการขายลอตเตอรี่ในราคาถูกกว่าที่รัฐกำหนด ให้ติดต่อสำนักงานสลากกินแบ่งให้ตรวจสอบก่อน .-สำนักข่าวไทย