กรุงเทพฯ 29 ต.ค. – กรมชลประทานปรับการระบายน้ำเขื่อนลำตะคอง รองรับปริมาณน้ำจากพายุโมลาเบ โดยไม่ให้กระทบพื้นที่ท้ายน้ำ พร้อมวางแผนผันน้ำเก็บในแก้มลิงและแหล่งน้ำต่าง ๆ ยืนยันแม้หลายเขื่อนจะมีน้ำในเกณฑ์มาก แต่มีเสถียรภาพ มั่นคง และแข็งแรง ขอประชาชนไม่ต้องกังวล
นายสัญญา แสงพุ่มพงษ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำตะคองปรับแผนการระบายน้ำเพิ่มขึ้น เพื่อรองรับน้ำฝนที่จะไหลลงสู่เขื่อนระลอกใหม่ โดยเขื่อนลำตะคองมีน้ำเก็บกัก 347.86 ล้าน ลบ.ม. มีปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อนประมาณ 960,000 ลบ.ม./วัน มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ซึ่งขณะนี้ทำการระบายน้ำ 860,000 ลบ.ม./วัน โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำตะคองจึงวางแผนปรับเพิ่มการระบายน้ำเป็น 1.73 ล้าน ลบ.ม./วัน แต่ยืนยันว่าไม่ส่งผลกระทบต่อพื้นที่ท้ายน้ำ เนื่องจากคำนวณการระบายให้สัมพันธ์กับความจุของลำน้ำ ขณะลำตะคองมีระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่งประมาณ 50 เซนติเมตร ประกอบกับ น้ำที่เคยท่วมขังได้เร่งระบายลงไหลสู่แม่น้ำมูลไปแล้ว
นอกจากนี้ ยังกำชับให้โครงการชลประทานทุกแห่งผันน้ำส่วนเกินไปเก็บไว้แก้มลิงและแหล่งน้ำสาธารณะตามที่นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สั่งการ เพื่อไม่ให้เป็นการระบายทิ้งโดยเปล่าประโยชน์ แต่ต้องเก็บกักน้ำไว้ให้มากที่สุด เพื่อให้เกษตรกรและประชาชนในพื้นที่ได้มีน้ำใช้อย่างเพียงพอในทุกกิจกรรมตลอดฤดูแล้งหน้า
นายสัญญา กล่าวถึงรายงานปริมาตรน้ำในเขื่อนทั้งขนาดใหญ่และขนาดกลางที่อยู่ในเกณฑ์น้ำมาก ทำให้ประชาชนกังวลถึงความปลอดภัย ขอย้ำว่าผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยเขื่อนสำรวจสภาพของเขื่อนทุกแห่งตามมาตรฐานสากลสม่ำเสมอตลอดทั้งปี ดังนั้น ที่มีข่าวเกี่ยวกับเขื่อน 3 แห่ง ได้แก่ เขื่อนขุนด่านปราการชล เขื่อนหนองปลาไหล และเขื่อนลำตะคอง ขอให้ประชาชนมั่นใจว่าตัวเขื่อนรวมถึงอาคารชลประทานมั่นคงแข็งแรงอยู่ในสภาพพร้อมใช้งานและยังสามารถรองรับปริมาณน้ำได้ในอัตราที่กำหนดไว้ ยืนยันว่ากรมชลประทานได้มีการตรวจสอบความมั่นคงแข็งของอาคารชลประทานอยู่สม่ำเสมอตลอดทั้งปี จึงขอให้ประชาชนและทุกภาคส่วนรับฟังข่าวสารจากทางราชการเท่านั้น หรือ โทร.สอบถามได้ที่สายด่วนกรมชลประทาน 1460 ได้ตลอดเวลา.-สำนักข่าวไทย