กรมอนามัย 28 ต.ค.-กรมอนามัย แนะประชาชนลอยกระทงออนไลน์ใน ช่วงการเฝ้าระวังโรคโควิด-19 อย่างใส่ใจสิ่งแวดล้อม เพื่อลดการเพิ่มปริมาณขยะ
นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย รักษาราชการแทนอธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า ในช่วงสถานการณ์การเฝ้าระวังโรคโควิด-19 การจัดงานประเพณีลอยกระทงตามสถานที่ต่างๆ จะทำให้มีการรวมตัวของกลุ่มคนเป็นจำนวนมากและใกล้ชิดกัน ซึ่งอาจก่อให้เกิดการแพร่กระจายของโรคโควิด-19ได้ ดังนั้น ประชาชนยังคงต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันตนเองจากโรคโควิด-19 โดยยึดหลักสวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่าง1-2เมตรและล้างมือด้วยสบู่และน้ำบ่อย ๆ กรมอนามัยแนะนำให้ประชาชนเลือกลอยกระทงออนไลน์ เพื่อลดเสี่ยงโรคโควิด-19 และช่วยลดปริมาณขยะ
สำหรับประชาชนที่ต้องการออกไปลอยกระทงนอกบ้าน ให้เลือกกระทงให้เหมาะกับแหล่งน้ำที่จะไปลอย เช่นกระทงขนมปังหรือกระทงกรวยไอศกรีม ควรลอยในแหล่งน้ำที่มีปลา กระทงหยวกกล้วยเหมาะกับแหล่งน้ำที่มีเจ้าหน้าที่เก็บขนขึ้นมาเพื่อนำไปใช้ประโยชน์ต่อได้ เช่น นำไปหมักทำปุ๋ย เลือกกระทงที่ทำจากวัสดุจากธรรมชาติ เก็บขนได้ทัน ไม่เป็นมลพิษต่อแหล่งน้ำ ป้องกันน้ำเน่าเสีย เช่น ทำจากหยวกกล้วย ใบตอง และไม่ใช้วัสดุหลากหลายเกินไป เพื่อลดภาระการคัดแยกก่อนนำไปกำจัด เลี่ยงกระทงที่มีเข็มหมุด พลาสติก โฟม เพราะย่อยสลายยากและเป็นขยะในแหล่งน้ำได้ นอกจากนี้ ควรลดขนาดกระทงให้เล็ก เพราะใช้วัสดุน้อยกว่า หากมาเป็นครอบครัว กลุ่มเพื่อน มาเป็นคู่หรือมากับแฟน ให้ลอยกระทงร่วมกันโดยใช้ 1 กระทง เป็นการสานสัมพันธ์ที่ดี เพื่อช่วยกันลดปริมาณขยะ ลดมลพิษ ต่อแหล่งน้ำ และที่สำคัญผู้ปกครองต้องเฝ้าระวังบุตรหลานไม่ให้คลาดสายตาเพราะอาจพลัดหลงหรือตกน้ำได้
“ในทุก ๆ ปี เมื่อผ่านคืนวันลอยกระทง สิ่งที่ตามมาคือซากกระทงจำนวนมากที่ลอยอยู่ในแม่น้ำลำคลองหลายแห่ง จากสถิติของศูนย์ข้อมูลกรุงเทพมหานคร พบว่า ปริมาณกระทงที่เก็บได้ ในปี 2562 เฉพาะในกรุงเทพมหานคร รวมทั้งหมด 502,024 ใบ แบ่งเป็นกระทงจากวัสดุธรรมชาติ เช่น ต้นกล้วย ใบตอง จำนวน 483,264 ใบ หรือร้อยละ 96.3 และกระทงจากโฟม จำนวน 18,760 ใบ หรือร้อยละ 3.7 ซึ่งร้อยละของกระทงที่ทำจากวัสดุธรรมชาติหรือวัสดุที่ย่อย สลายได้มีปริมาณที่เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา แสดงให้เห็นว่าประชาชนมีความตระหนักและให้ความสำคัญกับการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมมากขึ้น” นพ.สุวรรณชัย กล่าว .-สำนักข่าวไทย