รัฐสภา 21 ต.ค.- กมธ.พิจารณาแก้รธน.พิจารณาสรุปแก้รัฐธรรมนูญเสร็จ เผยมีความเห็นตั้งส.ส.ร.เป็น 2 ฝ่าย “ไพบูลย์” ขู่ยื่นศาล รธน.หากยกร่างใหม่
ที่รัฐสภา มีการประชุมคณะกรรมาธิการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม ก่อนรับหลักการ เพื่อสรุปประเด็นร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ มีนายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ เป็นประธาน ภายหลังการประชุม นายณัฏฐ์ชนน ศรีก่อเกื้อ ส.ส.สงขลา พรรคภูมิใจไทย ในฐานะเลขานุการกมธ.กล่าวว่า ที่ประชุมได้สรุปความเห็นต่อการแก้รัฐธรรมนูญในประเด็นต่าง ๆ ของกมธ.แต่ละคนเสร็จเรียบร้อยแล้ว จากนั้นในวันที่ 22 ต.ค.ที่กมธ.จะประชุมนัดสุดท้าย เพื่อสรุปความเห็นประเด็นต่าง ๆ ของกมธ.แต่ละคน และส่งข้อสรุปให้นายนิกร จำนง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคชาติ ไทยพัฒนา ในฐานะรองประธานกมธ.ฯ นำไปสรุปจัดทำเป็นรูปเล่ม เสนอต่อสมาชิกรัฐสภา เพื่อนำไปพิจารณาว่าจะลงมติรับหลักการหรือไม่ เมื่อมีการเปิดประชุมร่วมรัฐสภา สมัยสามัญในเดือนพฤศจิกายน
นายณัฏฐ์ชนน กล่าวว่า ส่วนข้อสรุปการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 256 นั้น กมธ.เสียงแตกเป็น 2 ฝ่ายคือ กมธ.ที่เป็นส.ส.เห็นว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา256 เพื่อจัดตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ(ส.ส.ร.) มายกร่างรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ สามารถทำได้ โดยไม่ขัดรัฐธรรมนูญ แต่กมธ.ที่เป็นส.ว.และนายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ มองว่า การแก้ไขมาตรา 256 เพื่อจัดตั้งส.ส.ร.มายกร่างรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ ไม่สามารถทำได้ ซึ่งนายไพบูลย์ระบุว่า หาก กมธ.นำรายงานการแก้รัฐธรรมนูญเสนอเข้าสู่ที่ประชุมรัฐสภาเมื่อใด จะยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย การแก้รัฐธรรมนูญมาตรา 256 กระทำได้หรือไม่ และจะต้องทำประชามติสอบถามประชาชนก่อนรับหลักการหรือไม่ เพื่อให้เกิดความชัดเจนในประเด็นดังกล่าว
นายณัฏฐชนน กล่าวว่า ส่วนร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตรนั้น ส.ว.ส่วนใหญ่มีท่าทีอ่อนลง ไม่ขัดข้องหากจะมีการแก้ไขในมาตรา 272 เรื่องการให้อำนาจส.ว.โหวตเลือกนายกรัฐมนตรี โดยยอมให้ตัดอำนาจดังกล่าวทิ้ง ถ้ามีความจำเป็น รวมถึงมาตรา 270 เรื่องอำนาจส.ว.ในการปฏิรูปประเทศนั้น ส.ว.หลายคนยอมรับว่า ปัญหาการปฏิรูปประเทศมีเยอะทุกเรื่อง จึงอยากให้ส.ส.เข้ามาร่วมเป็นคณะกรรมการปฏิรูประเทศ เพื่อให้การปฏิรูประเทศประสบผลสำเร็จ ซึ่งดูแล้วเสียงส.ว.ไม่ขัดข้องในการแก้รัฐธรรมนูญรายมาตรา.-สำนักข่าวไทย