กรุงเทพฯ 7 ต.ค. เคบีทีจีชูวิสัยทัศน์ Beyond The Future Day 2020 ย้ำผู้นำไฟแนนเชียลเทคฯ ตั้งเป้าปี 68 เป็น บริษัทเทคโนโลยีที่ดีที่สุดในไทย
นายเรืองโรจน์ พูนผล ประธาน กสิกรบิซิเนส-เทคโนโลยีกรุ๊ป (KBTG) กล่าวว่า โควิด -19 ทำให้รูปแบบการดำเนินชีวิตในสังคมปัจจุบันเปลี่ยนแปลงไปสู่วิถีใหม่ที่แตกต่างจากอดีต เคบีทีจีทำทรานส์ฟอร์เมชั่นครั้งสำคัญที่สุดภายใต้แนวคิด“ วันเคบีทีจี “(One KBTG) โดยมีแกนสำคัญในการปฏิรูปวัฒนธรรมองค์กรการปฏิรูปกระบวนการทำงานและการให้พนักงานมีส่วนร่วมเพื่อผลักดันให้เคบีทีจีเป็น บริษัท เทคโนโลยีที่แข็งแกร่งและเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาให้ประเทศรอดจากวิกฤตจากพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปมีความคุ้นเคยกับดิจิทัลมากขึ้นสะท้อนจากธุรกรรมซื้อสินค้าผ่านอีคอมเมิร์ซที่เพิ่มขึ้นเกือบ 3 เท่าผู้ใช้โมบายแบงกิ้งมีอายุมากขึ้นเฉลี่ย 40-50 ปีจากเดิม 25-39 ปีทำให้ปัจจุบันมียอดผู้ใช้งาน K + ราว 14 ล้านคนคาดว่าจะมียอดทำธุรกรรมทำสถิติกว่า 20,000 ล้านรายการในปีนี้รวมถึงการร่วมเป็นพันธมิตรกับองค์กรเพื่อให้ครอบคลุมธุรกรรมทางการเงินในทุกอุตสาหกรรม
สำหรับแอปพลิเคชันขุนทองมีลูกค้าดาวน์โหลดแล้ว 500,000 ราย แอป Make ดาวน์โหลดแล้ว 20,000 ราย แอปEatable 10,000 รายและมีพันธมิตรใช้ Contactless Technology 20 ราย โดยล่าสุดได้ร่วมกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยพัฒนาแพลตฟอร์มสินทรัพย์ดิจิทัลเพื่อเปิดตลาดทุนแบบใหม่ในประเทศไทยที่จะช่วยเพิ่มช่องทางการระดมทุนและลงทุนในผลิตภัณฑ์บนแพลตฟอร์มใหม่
ยุทธศาสตร์การดำเนินงานของเคบีทีจีต้องการสร้างความเข้มแข็งให้กับองค์กรผ่าน 3 แกนหลักคือ 1. เพื่อให้ลูกค้าทุกรายสามารถทำธุรกิจต่อได้ทำให้คนรู้จักออมเงินลงทุนและซื้อประกันซึ่งเป็นเสาหลัก 2. ทำให้เกิดสมดุลทางการเงินของชีวิตและตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของลูกค้าให้มากที่สุดเพราะมีเงินสะสมนำเงินส่วนที่เหลือไปลงทุนเพื่อที่จะเกษียณได้3. เปลี่ยนรูปแบบธุรกิจธนาคารแบบเดิมเป็น บริษัท เทคโนโลยีที่จะนำนวัตกรรมออกไปให้กับทุก ๆ คนได้ใช้ไม่ว่าลูกค้าจะอยู่ที่ไหนหรือทำธุรกรรมรูปแบบใด
“อนาคตถูกร่นเวลาด้วยการระบาดของโควิด-19 เคบีทีจีต้องการเร่งการเปลี่ยนแปลงและการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลด้วยการมองไปไกลนำหน้าอนาคตหนึ่งก้าว และไม่หยุดเฉพาะในประเทศไทย”
นายเรืองโรจน์ กล่าวอีกว่า เคบีทีจีได้ตั้ง Development Hub ขึ้นใน 3 ประเทศคือไทยเวียดนามและจีนเพื่อให้การพัฒนาเทคโนโลยีได้ทันกับโครงสร้างการให้บริการของธนาคารกสิกรไทยและพันธมิตรที่มุ่งสู่ดิจิทัลแบงกิ้งมากขึ้นปัจจุบันธนาคารกสิกรไทยประสบความสำเร็จในการให้บริการ QR KBank ในสปป. ลาวและได้ขยายบริการจากนครหลวงเวียงจันทน์ไปที่สะหวัดนะเขตเพิ่มขึ้นซึ่งปัจจุบันมีลูกค้าใช้บริการแล้ว 70,000 รายคาดว่าภายในสิ้นปีนี้จะเพิ่มเป็น 200,000 รายสำหรับในเมียนมาได้ร่วมกับเอยาวดีฟาร์มเมอร์ดีเวลลอปเม้นท์แบงก์หรือเอแบงก์ซึ่งเป็นธนาคารที่ธนาคารกสิกรไทยร่วมลงทุนเตรียมนำแอปพลิเคชันเคพลัสไปพัฒนาใช้ในเมียนมาในชื่อ A + ซึ่งมั่นใจว่าจะได้รับความนิยมเช่นเดียวกับที่ประสบความสำเร็จในประเทศไทยจนเป็นแอปฯ การเงินอันดับหนึ่งในขณะนี้
ส่วนในประเทศจีน เคบีทีจีเปิด K-TECH ที่เมืองเซินเจิ้นประเทศจีนโดยมีทุนจดทะเบียน 300 ล้านหยวนเรียบร้อยแล้วตั้งเป้าจะรับพนักงานประมาณ 300 คนโดยมีเป้าหมายที่จะพัฒนาเทคโนโลยีการทางเงินสำหรับธนาคารกสิกรไทยในประเทศจีนและประเทศอื่นและพันธมิตรโดยธนาคารกสิกรไทยในจีนมีเป้าหมายที่จะขยายตลาดไปสู่ลูกค้ารายย่อยในการปล่อยสินเชื่อบุคคลซึ่งเป็นตลาดใหญ่ที่ยังมีช่องว่างในลักษณะที่เป็น Digital Lending-สำนักข่าวไทย.