กรุงเทพฯ 28 ก.ย. อินเด็กซ์ครีเอทีฟวิลเลจ ปรับธุรกิจฝ่าโควิด-19 ใช้เทคโนโลยียกบริการทางการแพทย์มาอยู่ในโรงแรม
นายเกรียงไกร กาญจนะโภคิน ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท อินเด็กซ์ครีเอทีฟวิลเลจ จำกัด(มหาชน) กล่าวถึงการปรับตัวของธุรกิจว่า การระบาดของโควิด-19 ทำให้หลายธุรกิจเสียหาย หนึ่งในธุรกิจที่เสียหายคือ โรงพยาบาล และโรงแรมโจทย์ ที่โรงแรม และโรงพยาบาลต้องแก้จากการที่นักท่องเที่ยวหายไปคือโจทย์เดียวกันจึงเป็นที่มาของ อัญยา คือ ธุรกิจใหม่ร่วมพันธมิตร เป็นธุรกิจที่พาโรงพยาบาลมาเจอกับโรงแรม ได้ง่ายขึ้นเร็วขึ้นโดยใช้เทคโนโลยี จากผู้เชี่ยวชาญ อัญยา อยู่ระหว่างอุตฯ โรงแรงและโรงพยาบาล
“ ANYA MEDITEC คือแนวคิด Bring Hospital to Hotel เป็นการผสมผสานธุรกิจ Hospital + Hotel + Technology กับการดูแลสุขภาพแบบองค์รวมรู้ทัน-ป้องกันรักษาที่ไม่จำเป็นต้องอยู่ที่โรงพยาบาลยกระดับการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพของไทยเพื่อพัฒนาประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ (Medical Hub) พร้อมเปิดรับพันธมิตรทั้งโรงพยาบาลและผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรม การรักษาโรคปัจจุบัน ไม่จำเป็นต้องไปโรงพยาบาล สามารถทำที่ไหนก็ได้ด้วย meditec อัญยา แปลว่า ไม่ใช้ยา แนวคิดคือป้องกันโรคไม่ให้เกิด ทำบนที่ทร่ไปแล้วสบายใจ เช่น นอนไม่หลับคนชอบบอกว่าเปลี่ยนที่นอน เราจึงคิดถึงโรงแรม การทำ สลิปเทส การทำเทเลเมด สามารถทำที่โรงแรม อัญยาเป็นตัวกลางในการเชื่อมโรงแรมและโรงพยาบาล ไม่ได้แก้ปัญหาให้นักท่องเที่ยวแต่เป็นการแก้ไขปัญหาเพื่อคนเมือง “ นายเกรียงไกร กล่าว
นายเกรียงไกร กล่าวว่า ANYA MEDITEC จะสร้างปรากฎการณ์ New Chapter Healthcare Industry เชื่อมโยงระหว่าง โรงพยาบาล+โรงแรม+เทคโนโลยี เข้าด้วยกัน อัญยาจะเข้าไปบริหารจัดการวางแผนธุรกิจและวางระบบให้ตั้งแต่เริ่มต้นกับโรงแรมเพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจและฟื้นฟูการท่องเที่ยวนอกจากนี้มีพันธมิตรหลักเป็นโรงพยาบาลชั้นนำและ บริษัท เรสท์เมดิคอล (ประเทศไทย) จำกัด Sleep lab และผู้แทนนำเข้าจำหน่ายผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์แบรนด์ Resmed บริการทางการแพทย์อาทิ การทดสอบประสิทธิภาพในการนอน (Sleep Test) การตรวจสุขภาพ (Health Check) คาดว่าภายในสิ้นปีนี้จะมีโรงแรงเข้าร่วม 20 แห่ง และอนาคตจะขยายไปในต่างประเทศ
นางสาวเพิ่มศิริ ศิริจินดาพันธ์ รองประธาน บริษัท เรสท์ เมดิคอล (ประเทศไทย) จำกัด Sleep lab อัญยา คือคนที่นำโทเทิ่ลสลิปโซลูชั่น มาให้บริการ เช่น การตรวจสอบการนอนหลับ จะเริ่มจากการคุยกันกับตั้งแต่นักจิตบำบัดว่ามีปัญหาอะไรหรือไม่ ทำไมจึงนอนไม่หลับ การแก้ไขปัญหาคือการนอนสมาธิ ซึ่งหาคนทำได้ยาก จึงต้องใช้เทคโนโลยี โซลูชั่นที่นำเสนอ สามารถพัฒนาระบบโดยใช้เวลาสั้น เพียง 1-1.5 เดือน ให้บริการได้ทันที โดยเทคโนโลยีจะรองรับทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ นอกจากนี้หบังการเข้ามาดูแลสุขภาพแล้วยังมีเทคโนโลยีที่ติดตามการดูแลสุขภาพของผู้มาใช้บริการ ขั้นตอนการดูแล ผู้ใช้บริการจะมาเจอหมอ 2 ครั้ง ทำสลิปเทส ใครมีปัญหาจะ หาแนวทางแก้ไข แล้วลองทดสอบการนอนพี้อมกับอุปกรณ์ แล้วเอาเครื่องกลับไปทดลองใช้งานที่บ้าน 7 สัน แล้วจึงเอาผลมาปรับแนวทางการรักษา แล้วแก้ไข จากนั้นสามารถติดตามผลผ่านระบยการแพทย์ทางไกล (Telemed)
“ค่าบริการเริ่มต้นในการใช้บริการขึ้นกับโรงแรม น่าจะอยู่ที่ 20,000-30,000 บาท ปกติโรงพยาบาลเอกชน 16,000 บาท โรงพยาบาลรัฐ 6,000-7,000 บาท แต่อาจนอนไม่หลับ การทำสลิปเทสที่โรงพยาบาล สามารถเอาครอบครัวไปเที่ยวได้ สามารถตรวจสุขภาพมากกว่าการนอนก็ได้ อัญยามีพันธมิตรด้ายเฮลเทคที่จะมีการนำอุปกรณ์ไฮเทคอย่างอื่นเข้ามาให้บริการด้วย “ นางสาวเพิ่มศิริ กล่าว
นายเกรียงไกร กล่าวสรุปว่า การปรับตัวนี้น่าจะเป็นประโยชน์กับธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องและได้รับผลกระทบรุนแรง คือโรงแรม และโรพยาบาล โดยเฉพาะโรงพยาบาล ที่อยู่ในพื้นที่ท่องเที่ยวสำคัญภูเก็ต เชียงใหม่ พัทยา หัวหิน ฯลฯ เมื่อนโยบายรัฐอยากให้ประเทศไทยเป็นฮับของการรักษาพยายาล การให้บริการทางสุขภาพน่าจะเป็นโอกาส โดยระยะเริ่มต้นให้บริการใน 10 โรงแรมก่อน ซึ่งอนาคตจะถ้าเราเน้นไปที่นักท่องเที่ยวเรดเอ หรือ บี โรงแรม 5 ดาว นั่นคือโอกาส อัญยาเชื่อว่าบริการนี้น่าจะเป็นโอกาสมีรายได้จากการใช้จ่ายต่อหัวของนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทย -สำนักข่าวไทย.