กทม. 23 ก.ย. 63 – เปิดมหกรรมอุตสาหกรรมด้านพลังงานทดแทนและยานยนต์ไฟฟ้า ASEAN Sustainable Energy Week 2020 โชว์นวัตกรรมพลังานที่ครบครันที่สุดในภูมิภาคอาเซียน
เปิดงาน ASEAN Sustainable Energy Week 2020 หรือ ASE2020 งานแสดงนวัตกรรมด้านพลังงานทดแทนและสิ่งแวดล้อมที่ครบครันที่สุดในภูมิภาคอาเซียน ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุม ไบเทค บางนา กทม.
นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ประธานเปิดพิธี กล่าวว่า การระบาดของโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจทั้งระดับโลกและประเทศไทย รวมถึงภาคพลังงานด้วย ซึ่งเป็นโจทย์ที่ท้าทายในการปรับตัวเดินหน้าเข้าสู่ชีวิตวิถีใหม่ โดยกระทรวงพลังงานได้ดำเนินการบรรเทาแก้ปัญหาเฉพาะหน้าให้ทุกภาคส่วน ด้านรายได้ และลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน โดยเฉพาะการสร้างงานสร้างรายได้ กระทรวงพลังงานวางมาตรการในระยะยาวที่จะส่งเสริมทุกภาคส่วน ปรับแนวคิด และโมเดลการดำเนินธุรกิจสู่ความยั่งยืนสอดคล้องกับนโยบายเศรษฐกิจ BCG Economy สู่การพัฒนาโมเดลเศรษฐกิจที่ยั่งยืน นอกจากนี้กระทรวงพลังงานยังคงดำเนินการตามแผนพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงานร่วมกับแผนพัฒนาพลังงานไฟฟ้าของประเทศ หรือ AEDP ซึ่งมีเป้าหมายใช้พลังงานทดแทนในประเทศไทยให้ได้ 30 เปอร์เซ็นต์ของการใช้พลังงานทั้งหมดภาย ในปี พ.ศ. 2580 ซึ่งหากเป็นไปตามแผนจะส่งเสริมการใช้พลังงานหมุนเวียนมากขึ้น เดินหน้าส่งเสริมโรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อ ให้เกิดผลประโยชน์สูงสุดแก่เกษตรกรอย่างแท้จริง และพัฒนาทุกภาคส่วนสู่ความยั่งยืน
ขณะที่ภาครัฐมีนโยบายสนับสนุนพลังงานโซล่าร์ฯภาคประชาชน และขับเคลื่อนพลังงานทางเลือกใหม่ ๆ เช่น แบตเตอรี่ และรถยนต์ไฟฟ้า (EV) รวมทั้งมีนโยบายการพัฒนานวัตกรรมพลังงานใหม่ ๆ ลดการผลิตก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ นำระบบอัจฉริยะมาใช้ในระบบการจ่ายไฟฟ้า และสร้างธุรกิจใหม่ๆ ที่จะรองรับอนาคตของประเทศ และส่งเสริมให้ไทยเป็นศูนย์กลางการลงทุนด้านพลังงานทดแทนแห่งภูมิภาค ซึ่งงาน ASE 2020 เป็นงานที่ตอบโจทย์การเดินหน้าสู่การปรับตัวด้านพลังงานของประเทศไทยและภูมิภาคสู่ความยั่งยืนอย่างแท้จริง
นายมนู เลียวไพโรจน์ ประธาน อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ ประเทศไทย กล่าวว่า ในปีนี้ใช้รูปแบบการจัดงานแบบนิวนอร์มอล จัดงานแสดงในรูปแบบ ไฮบริด เอ็กซ์ซิบิชั่น (Hybrid Exhibition) หรือการจัดแสดงแบบครบองค์รวม ที่รองรับทั้งการจัดแสดงงานในรูปแบบปกติ และการจัดแสดงแบบเสมือนจริง (Virtual Exhibition) อำนวยความสะดวกให้ผู้เข้าชมงานชาวต่างชาติที่ไม่สามารถเดินทางมาด้วยตนเอง สามารถพบปะพูดคุยผ่าน แพลตฟอร์มออนไลน์ โดยในงานยังมีกิจกรรมด้านเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้าและอุปกรณ์ ระบบจัดการแบตเตอรี่ อุปกรณ์ตรวจตราและควบคุมสถานีชาร์จประจุไฟฟ้า อีกทั้งได้พบกับนวัตกรรมพลังงานใหม่ล่าสุด พร้อมกับเครื่องจักรและอุปกรณ์ที่ทันสมัยจากกว่า 1,000 แบรนด์ชั้นนำของโลก โดยคาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมงานกว่า 15,000 ราย สนใจสามารถเข้าชมงานระหว่างวันที่ 23 -26 กันยายน 2563 .-สำนักข่าวไทย