กองบัญชาการกองทัพบก 11 ก.ย.-ผบ.ทบ.ประชุมนขต.ทบ.นัดสุดท้ายก่อนเกษียณ ชี้ธงตำแหน่งคือเครื่องเตือนสติถึงหน้าที่และความรับผิดชอบ ย้ำผู้บังคับหน่วยดูแลสวัสดิการ สร้างขวัญกำลังใจ ต้องใส่ใจคลุกคลีลูกน้องเพื่อรับทราบปัญหา เป็นแบบอย่างที่ดีของกำลังพล พร้อมตบท้ายด้วยกลอนทหารทำงานเพื่อชาติ ประชาชน สละชีพได้เพื่อแผ่นดิน
พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก เป็นประธานประชุมผู้บังคับหน่วยขึ้นตรงกองทัพบก(นขต.ทบ.) ระดับผู้บังคับการกรมและผู้บังคับกองพันจำนวน 655 นาย ทั้งนี้ก่อนเข้าสู่วาระการประชุมฯ ผู้บัญชาการทหารบกมอบเป้สนามกองทัพบก แบบ A-1 จำนวน 800 ใบ ซึ่งพล.อ.อภิรัชต์ออกแบบเพื่อเป็นเป้สนามต้นแบบ มอบใบประกาศชมเชยการตรวจสอบและประเมินผลการพัฒนาคุณภาพชีวิตกำลังพลและประสิทธิภาพของหน่วยทหารกองทัพบก ประจำปี 2563 มอบเกียรติบัตรและเงินรางวัลให้แก่กำลังพลที่แข่งขันทักษะการปฏิบัติด้านไซเบอร์ภายในกองทัพบก และมอบโล่รางวัลและเงินรางวัลจากการจัดกิจกรรมการแข่งขัน Thailand Smart Soldier Strong Man Challenge ครั้งที่ 2
จากนั้น ผู้บัญชาการทหารบกกล่าวถึงการปฏิรูปกองทัพบก ว่า สำหรับตนแล้ว ธงคือเครื่องเตือนสติ ทุกครั้งที่รับส่งธง จะนึกเสมอว่าอะไรอยู่ภายใต้ผืนธง ธงผู้พัน ธงผู้การ ต่างก็มีภาระหน้าที่ ความรับผิดชอบที่แตกต่างกัน
“ทุกผืนธงมันหนัก เพราะคือความรับผิดชอบ ไม่ใช่เพียงเรื่องของเกียรติยศศักดิ์ศรี การสร้างรากฐานที่มั่นคงให้แก่กองทัพบก ต้องเริ่มที่ต้นน้ำ ต้นกำเนิด ทั้งทหารกองประจำการ นักศึกษาวิชาทหาร อาสาสมัครทหารพราน นักเรียนนายสิบ นักเรียนนายร้อย ต้นน้ำเหล่านี้จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องได้รับการปรับปรุงพัฒนาหลักสูตร ระเบียบ หลักเกณฑ์ให้สอดคล้องกับยุคสมัย บริบทและทัศนคติของคนรุ่นใหม่ในยุคปัจจุบัน” ผู้บัญชาการทหารบก กล่าว
พล.อ.อภิรัชต์ ได้ยกตัวอย่างการพัฒนาปรับปรุงระเบียบทรงผมของนักศึกษาวิชาทหาร โครงการลบรอยสักให้แก่นักเรียนนายสิบ การเปิดโอกาสให้ทหารกองประจำการได้เรียนหลักสูตรส่งทางอากาศ การสร้างและพัฒนาหลักสูตรโรงเรียนทหารพราน หลักสูตร English program ของโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า(รร.จปร.) ซึ่งโครงการนี้สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีทรงให้ความสนใจและชื่นชม
ผู้บัญชาการทหารบก กล่าวถึงความสำคัญของการปรับเกณฑ์การทดสอบร่างกายและการทดสอบภาษาอังกฤษของผู้บังคับหน่วย ระดับผู้บังคับการกรมและผู้บังคับกองพัน ซึ่งเหตุผลที่ผู้บังคับหน่วยต้องผ่านมาตรฐานดังกล่าว เพราะการเป็นผู้นำ ผู้บังคับหน่วยจะสะท้อนขีดความสามารถและประสิทธิภาพของหน่วย ต้องสามารถดำรงตนเป็นแบบอย่างที่ดี จึงจะสามารถเป็นผู้นำที่ดี นำพาหน่วยเจริญก้าวหน้าได้
สำหรับการจัดระบบกองทัพบกให้มีความโปร่งใส มีมาตรฐานสากล พลงอ.อภิรัชต์ กล่าวว่า ปัจจุบันกองทัพบกเผชิญกับความท้าทายหลายรูปแบบ หนึ่งในเรื่องที่หารือร่วมกับหลายฝ่ายคือการจัดการสวัสดิการกำลังพลกองทัพบกให้มีความโปร่งใส เป็นที่เชื่อมั่นของสังคม รวมทั้งก่อประโยชน์แก่กำลังพลและครอบครัว รวมถึงผลประโยชน์ของประเทศชาติด้วย จึงจัดสวัสดิการในเชิงธุรกิจของกองทัพบกร่วมกับกรมธนารักษ์และสวัสดิการภายในกองทัพบก อาทิ สถานพักฟื้นสวนสนประดิพัทธ์ สนามกอล์ฟ ยืนยันว่า กำลังพลกองทัพบกจะได้รับสวัสดิการทั่วถึง ราคาเท่าเดิม เพิ่มเติมคือการบริการระดับเยี่ยม เท่าเทียมมาตรฐานสากล
“หัวใจสำคัญคือ ทหารอาชีพ อาจจะไม่มีความเชี่ยวชาญด้านการบริหารจัดการโรงแรม บริหารจัดการสนามกอล์ฟ เพราะโรงเรียนนายร้อยไม่มีหลักสูตรเหล่านี้ ดังนั้น การทำงานร่วมกันกับมืออาชีพ จึงน่าจะเป็นแนวทางที่ก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด ที่สำคัญยิ่งของการเป็นผู้บังคับบัญชา ต้องใส่ใจสวัสดิการของผู้ใต้บังคับบัญชา ความเดือดร้อนต่าง ๆ ทั้งด้านการเงิน ครอบครัวของกำลังพล การเยียวยาจากการเสียชีวิตหรือทุพพลภาพของกำลังพลระหว่างปฏิบัติหน้าที่ เรื่องเหล่านี้คือขวัญและกำลังใจ” ผู้บัญชาการทหารบก กล่าว
ผู้บัญชาการทหารบก กล่าวว่า ทหารต้องมีวินัย พอเพียง ดูแลผู้ใต้บังคับบัญชา หน่วยจะดีหรือไม่ดีพิจารณาที่ผู้บังคับหน่วย การคิดนอกกรอบสามารถทำได้แต่ต้องไม่ผิดระเบียบ เมื่อสั่งอะไรให้ผู้ใต้บังคับบัญชาทำอะไร ผู้บังคับบัญชาต้องทำได้ เช่นกัน การกำกับดูแลคือผลลัพธ์ของความสำเร็จ สิ่งที่หายากคือโอกาส ขณะนี้ทุกคนได้โอกาสเป็นผู้บังคับหน่วย ต้องหาวิธีลดช่องว่าง ลดความเหลื่อมล้ำ
“ผมมีท่านนายกฯ เป็นแบบอย่าง ตั้งแต่ท่านดำรงตำแหน่งเป็นผู้บัญชาการทหารบก เวลาท่านไปไหนมาไหน ท่านจะพยายามลดภาระกำลังพลที่ต้องมารับมาส่ง การไปตรวจเยี่ยมแบบไม่เป็นทางการ จะทำให้เราเห็นปัญหาหลาย ๆ เรื่อง เพียงแค่ขาดการเอาใจใส่ดูแล ธุระไม่ใช่ ดังนั้น ถ้าผู้บังคับหน่วย ลงไปคลุกคลีกับลูกน้องบ้าง พูดคุย รับฟัง นั่งกินข้าวกับลูกน้อง เราอาจจะได้รับรู้อะไรดี ๆ เป็นขวัญกำลังใจแก่ผู้ใต้บังคับบัญชา” พล.อ.อภิรัชต์ กล่าว
ผู้บัญชาการทหารบก กล่าวว่า ข้อมูลที่ได้รับจากสายตรงผบ.ทบ. พบว่าเรื่องที่ต้องแก้ไขมากที่สุดอันดับหนึ่งคือ การเลื่อนยศ ตำแหน่ง เบี้ยเลี้ยง เงินเดือน รองลงมาคือ สวัสดิการกำลังพล และอันดับสุดท้ายคือการถูกลงโทษโดยไม่ได้รับความเป็นธรรม หลายเรื่องที่ร้องเรียนเข้ามาที่ศูนย์ร้องเรียนเรื่องร้องทุกข์สายตรงผบ.ทบ. ไม่อยากจะเชื่อว่าเกิดขึ้นจริง เรื่องเหล่านี้แม่ทัพภาค ผู้บัญชาการกองพลไม่มีทางได้รับทราบ
“ผู้บังคับหน่วยทุกระดับจะต้องใส่ใจสวัสดิการ สิทธิ กำลังพลของลูกน้อง ต้องเอาใจเขามาใส่ใจเรา อย่าปล่อยปละละเลยเด็ดขาด แม้ว่าหลายกรณีอาจจะเกิดขึ้นก่อนหน้าที่ท่านจะมาดำรงตำแหน่ง แต่ผลลัพธ์จะสะท้อนประสิทธิภาพผู้นำหน่วยมากที่สุด คือกำลังพลมีผู้นำที่พึ่งพาได้ เป็นแบบอย่างได้ หน่วยจะดีได้ ขึ้นอยู่กับผู้บังคับหน่วย จึงอยากสะท้อนให้ผู้บังคับหน่วย ผู้บังคับบัญชาตระหนักถึงความสำคัญเรื่องนี้” พล.อ.อภิรัชต์ กล่าว
ในตอนท้ายของการประชุม ผู้บัญชาการทหารก กล่าวด้วยบทกลอน ว่า
“…2 ปีร่วมปฏิรูป กองทัพบก
เหล่านักรบ ป้องปกแดนสยาม
เหล่าช่วยรบ พร้อมสรรพ ต่อภัยคุกคาม
ทั้งเชื้อโรค สงครามไซเบอร์ ไอที
ความมุ่งมั่น ใส่ใจในลูกน้อง
คือกิจต้องระลึก ไว้ในหน้าที่
ของผู้นำ ผบ.หน่วย ให้จงดี
ทบ.นี้ ขับเคลื่อนได้ เพราะทุกคน
เกือบ 3 แสน ทหารหาญ ทบ.ไทย
ปกป้องชาติ อธิปไตย ทุกแห่งหน
พัฒนาชาติ พร้อมช่วยเหลือ ประชาชน
แม้วายชนม์ สละได้ ให้แผ่นดิน…” .-สำนักข่าวไทย