สรรพสามิตชี้แจงการปรับขึ้นภาษียาเส้น

กรุงเทพฯ 9 ก.ย. – กรมสรรพสามิตแจงขยายเวลาขึ้นภาษีบุหรี่ซิกาแรตและยาเส้น ช่วยเกษตรกรผู้ปลูกใบยา หลังได้รับผลกระทบจากโควิด-19


นายวรวรรธน์ ภิญโญ ที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบควบคุมทางสรรพสามิต ในฐานะโฆษกกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า ตามที่เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทยจะนำชาวไร่ยาสูบร้องคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เอาผิดกระทรวงการคลังเอื้อประโยชน์ให้บริษัทบุหรี่นอกสามารถมีระยะเวลาในการปรับตัว เพื่อการแสวงหากำไรจากประกาศกระทรวงการคลัง

กรมสรรพสามิตขอชี้แจงว่าจาก พ.ร.บ.ภาษียาสูบ พ.ศ. 2509 จนถึง พ.ร.บ.ภาษีสรรพสามิต พ.ศ. 2560 มีการปรับขึ้นอัตราภาษียาเส้นเพียงหนึ่งครั้งเมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2555 จากอัตราที่ 0.001 บาทต่อกรัม เป็น 0.01 บาทต่อกรัม นอกจากนี้ ตาม พ.ร.บ. ภาษีสรรพสามิต พ.ศ. 2560 ได้ปรับลดอัตราภาษีตามปริมาณเป็น 0.005 บาทต่อกรัม เพื่อการขยายฐานภาษีให้ครอบคลุมถึงยาเส้นพันธุ์พื้นเมือง เพื่อเป็นการนำยาเส้นเข้าสู่ระบบสร้างความเท่าเทียมและเยียวยาให้แก่ผู้เสียภาษีรายใหม่ที่ต้องเข้าสู่ระบบ ดังนั้น การขึ้นอัตราภาษียาเส้นตามกฎกระทรวงกำหนดพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิต (ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2562 ซึ่งมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2562 ถือเป็นการขึ้นภาษีครั้งที่ 2 ในรอบกว่า 50 ปี ขณะที่ตลอดช่วงระยะเวลาดังกล่าว มีการปรับขึ้นภาษีบุหรี่ซิกาแรตอย่างเดียวรวม 16 ครั้ง อย่างไรก็ตาม บุหรี่ซิกาแรตยังคงมีภาระภาษีมากกว่ายาเส้นถึง 18 เท่า กล่าวคือ บุหรี่ซิกาแรตมีภาระภาษี 1.75 บาทต่อกรัม ขณะที่ยาเส้นมีภาระภาษีเพียง 0.10 บาทต่อกรัม ทั้งที่สินค้าทั้ง 2 ประเภทต่างมีผลเสียต่อสุขภาพเหมือนกัน


สำหรับการออกกฎกระทรวงกำหนดพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิต (ฉบับที่ 12) พ.ศ.2563 นั้น กรมสรรพสามิต ยังคงยึดหลักความเท่าเทียมระหว่างสินค้ายาสูบทั้งบุหรี่ซิกาแรตและยาเส้น คือ ด้วยการแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศไทยและทั่วโลก กระทบต่อการบริโภคภายในประเทศ การจ้างงาน ภาคการเกษตร และภาคการส่งออก กรมสรรพสามิตจึงมีนโยบายเพื่อการเยียวยาสินค้ายาสูบ ทำให้ผู้ประกอบอุตสาหกรรมยาสูบและยาเส้นและเกษตรกรได้รับการเยียวยาจากปัญหาการขาดสภาพคล่อง ตลอดจนเพื่อให้การยาสูบแห่งประเทศไทยได้มีการปรับตัวทางธุรกิจให้สามารถแข่งขันได้และยังคงมีการรับซื้อใบยาสูบจากเกษตรกรต่อไป โดยเสนอขยายเวลาการบังคับใช้อัตราภาษีปัจจุบันของบุหรี่ซิกาแรตและยาเส้นออกไปถึงวันที่ 30 กันยายน 2564 และเลื่อนการบังคับใช้อัตราภาษีใหม่ของบุหรี่ซิกาแรตและยาเส้นออกไป โดยให้เริ่มใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2564 เป็นต้นไป โดยเลื่อนเวลาการบังคับใช้อัตราภาษีบุหรี่ซิกาแรตตามมูลค่าแบบอัตราเดียวที่ร้อยละ 40 และอัตราภาษีตามปริมาณที่ 1.20 บาทต่อหนึ่งมวน จากเดิมที่จะมีการบังคับใช้วันที่ 1 ตุลาคม 2563 เป็นต้นไป ออกไปเป็นวันที่ 1 ตุลาคม 2564 เป็นต้นไป และ เลื่อนเวลาการบังคับใช้อัตราภาษียาเส้นตามมูลค่าที่ร้อยละ 0 และอัตราภาษีตามปริมาณที่ 0.10 บาทต่อหนึ่งกรัม จากเดิมที่จะมีการบังคับใช้ในวันที่ 1 มกราคม 2564 เป็นต้นไป ออกไปเป็นวันที่ 1 ตุลาคม 2564 เป็นต้นไป

“การขยายเวลาบังคับใช้อัตราภาษีบุหรี่ซิกาแรตและยาเส้น เป็นการช่วยบรรเทาความเดือดร้อนเกษตรกรผู้ปลูกใบยาทั้ง 2 กลุ่มอย่างเท่าเทียมกัน” โฆษกกรมสรรพสามิต กล่าว.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”