นนทบุรี 4 ก.ย. – กรมพัฒนาธุรกิจการค้ามอบใบประกาศนียบัตร 34 ธุรกิจแฟรนไชส์ไทยที่ผ่านเกณฑ์มาตรฐานปี 63 พร้อมเป็นพระเอกพาเศรษฐกิจไทยเดินหน้าไปได้อย่างก้าวกระโดด
นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ กรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้จัดพิธีมอบประกาศนียบัตรธุรกิจแฟรนไชส์ที่ผ่านการยกระดับสู่มาตรฐานคุณภาพการบริหารจัดการ ประจำปี 2563 โดยปีนี้มีธุรกิจแฟรนไชส์ได้รับประกาศนียบัตรและเครื่องหมาย Franchise Standard 34 กิจการ แบ่งได้ 5 กลุ่มธุรกิจ คือ ธุรกิจอาหาร 16 ราย ธุรกิจเครื่องดื่ม 11 ราย ธุรกิจบริการ 4 ราย ธุรกิจค้าปลีก 2 ราย และธุรกิจการศึกษา 1 ราย โดยทั้งหมดเป็นธุรกิจที่จดทะเบียนในรูปแบบนิติบุคคล มีการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า ดำเนินธุรกิจแฟรนไชส์มาแล้วไม่น้อยกว่า 2 ปี พร้อมกับผ่านการเข้าร่วมกิจกรรมบ่มเพาะองค์ความรู้เกี่ยวกับการบริหารจัดการธุรกิจแฟรนไชส์ ได้รับคำปรึกษาแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญและเข้ารับการศึกษาดูงานธุรกิจแฟรนไชส์ที่เป็นต้นแบบ ด้านการบริหารจัดการธุรกิจ และผ่านการตรวจประเมินผลการพัฒนาเพื่อขอการรับรองมาตรฐาน
นายวุฒิไกร กล่าวเพิ่มเติมว่า หลังจากทั่วโลกเกิดวิกฤติโควิด-19 ธุรกิจแฟรนไชส์ได้พิสูจน์ความเข้มแข็งของโมเดลธุรกิจมาแล้วว่ามีประสิทธิภาพทางการตลาดอย่างมาก แม้ว่าธุรกิจแฟรนไชส์ส่วนใหญ่จะได้รับผลกระทบโดยตรงมีกิจการจำนวนมากหยุดชะงักและขาดสภาพคล่อง บางสาขาต้องปิดตัวลง แต่ทันทีที่สถานการณ์ในประเทศเริ่มผ่อนคลายลง พบว่าธุรกิจแฟรนไชส์เป็นหนึ่งในกลุ่มอุตสาหกรรมแรกที่ฟื้นตัวกลับคืนมาอย่างก้าวกระโดด ปัจจุบันแฟรนไชส์จึงกลายเป็นธุรกิจดาวรุ่งและเป็นทางเลือกในการลงทุนและสร้างรายได้สำหรับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสภาวะเศรษฐกิจ โดยกรมฯ มั่นใจว่าแฟรนไชส์ไทยจะเป็นหนึ่งในกลไกสำคัญช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ ช่วยขับเคลื่อนการบริโภคภายในประเทศ กระตุ้นการจ้างงานในภูมิภาค การสร้างอาชีพและความมั่งคั่งและยั่งยืนให้กับเศรษฐกิจไทยในภาพรวมได้ในอนาคต
ข้อมูลวันที่ 2 กันยายน 2563 พบว่า มีธุรกิจแฟรนไชส์ที่ผ่านเกณฑ์มาตรฐานคุณภาพการบริหารจัดการจากกรมฯ โดยยังคงดำเนินธุรกิจในรูปแบบแฟรนไชส์ 334 ราย แบ่งตามธุรกิจอาหาร 157 ราย ธุรกิจเครื่องดื่ม 65 ราย ธุรกิจการศึกษา 43 ราย ธุรกิจบริการ 36 ราย ธุรกิจค้าปลีก 18 ราย และธุรกิจความงามและสปา 15 ราย ซึ่งมีธุรกิจแฟรนไชส์ที่สามารถขยายไปยังตลาดต่างประเทศได้ถึง 34 ราย ใน 32 ประเทศ ทั้งนี้ แต่ละปีมีผู้ประกอบการรายใหม่ที่สนใจเข้าสู่ธุรกิจแฟรนไซส์กว่า 15,000-20,000 ราย โดยกลุ่มอาหารและเครื่องดื่มที่มีสัดส่วนมากกว่าร้อยละ 50 รองลงมา คือ ค้าปลีก ธุรกิจบริการ ความงามและสปา และธุรกิจการศึกษา.-สำนักข่าวไทย