กรุงเทพฯ 20 ส.ค. – “สุพัฒนพงษ์” เชื่อมั่น ปตท.สผ.เข้าพื้นที่ “เอราวัณ” ราบรื่น ปัดไม่รู้เรื่องต่ออายุซีอีโอ ปตท.สผ. เดินหน้าเจรจาพื้นที่ทับซ้อนไทย-กัมพูชา ส่วนเปิดประมูลปิโตรเลียมรอบใหม่ให้ชะลอทบทวนให้รอบคอบ
นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า ไม่ทราบว่าทางที่ประชุมคณะกรรมการ บมจ.ปตท.วันนี้ จะมีการพิจารณารายชื่อกรรมการคนใหม่ หรือต่ออายุนายพงศธร ทวีสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม หรือ ปตท.สผ.ที่จะครบอายุเกษียณปีนี้หรือไม่ เป็นเรื่องที่ ปตท.จะพิจารณาว่าจะทำได้ตามกฎหมายหรือหลักเกณฑ์ที่เหมาะสมหรือไม่
ส่วนการแต่งตั้งบอร์ดหรือกรรมการบริษัทต่าง ๆ ในหน่วยงานกำกับดูแลของกระทรวงพลังงานที่ดูแล ปตท.และการไฟฟ้าฝ่ายแห่งประเทศไทย (กฟผ.) นั้น แต่ละบริษัทจะดูความเหมาะสม คุณสมบัติ ทักษะการทำงานของผู้ที่จะมาเป็นกรรมการ โดยในส่วนของ บมจ.ต่าง ๆ ก็จะมีคณะกรรมการย่อยสรรหาก่อนที่คณะกรรมการแต่ละบริษัทจะเห็นชอบตามระบบ
นายสุพัฒนพงษ์ กล่าวด้วยว่า นายศิริ จิระพงษ์พันธ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ก็จะเข้ามาช่วยการทำงานของตน เนื่องจากเป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถ ทั้งปิโตรเลียม ปิโตรเคมีและอื่น ๆ
นายสุพัฒนพงษ์ ยังกล่าวด้วยว่า ยังเชื่อมั่นว่าการส่งมอบพื้นที่เพื่อให้เกิดการผลิตปิโตรเลียมต่อเนื่องหลังหมดอายุสัมปทานในแหล่งเอราวัณปี 2565 ซึ่งบริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิตจำกัด จะต้องเปิดให้ ปตท.สผ.เข้าพื้นที่ปีนี้นั้น จะสามารถดำเนินการได้ตามแผนราบรื่น เพื่อไม่ให้เกิดการสะดุด
ส่วนการเปิดประมูลแหล่งปิโตรเลียมรอบใหม่ รอบ 23 นั้น ได้สั่งให้กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติทบทวนว่าจะเปิดประมูลปีนี้ตามแผนเดิมเป็นสิ่งที่เหมาะสมหรือไม่ เพราะราคาน้ำมันตกต่ำจากพิษโควิด-19 อาจะทำให้วงเงินที่รัฐได้รับจากการประมูลต่ำเกินไปกระทบต่อผลประโยชน์ของประเทศ
นายสุพัฒนพงษ์ ยังกล่าวด้วยว่า จะเดินหน้าโครงการความร่วมมือพัฒนาปิโตรเลียมในพื้นที่ทับซ้อนไทย-กัมพูชา เพื่อผลักดันให้เกิดการเจรจาและพัฒนาให้เกิดผลประโยชน์เศรษฐกิจระยะยาวระหว่างกัน โดยจากผลกระทบทางเศรษฐกิจจากโควิด-19 ของ 2 ประเทศ ก็เชื่อว่าจะเป็นแรงผลักดันให้เห็นความสำคัญร่วมในการพัฒนาพื้นที่นี้.-สำนักข่าวไทย