นนทบุรี 5 ส.ค. – รัฐมนตรีพาณิชย์ยอมรับข้าวไทยแพง ทำให้หลายประเทศหันไปซื้อคู่แข่ง ย้ำถึงเวลาต้องปรับและวางยุทธศาสตร์ข้าวไทยทั้งระบบใหม่ ดึงชาวนา-สถาบันเกษตรกร มุ่งพัฒนาคุณภาพข้าว
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์ได้รับรายงานถึงสถานการณ์ข้าวไทยในตลาดโลกขณะนี้ไม่ค่อยดี เนื่องจากตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาความผันผวนจากอัตราแลกเปลี่ยนโดยเฉพาะค่าเงินบาทแข็งขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ราคาข้าวไทยสูงกว่าคู่แข่งขันมากหลายประเทศหันไปสั่งซื้อข้าวจากประเทศอื่นแทนอย่างมาก แต่ขณะนี้เงินบาทเริ่มกลับมาอ่อนค่า ทำให้ราคาข้าวไทยไม่สูงมากหลายประเทศเริ่มกลับมาสั่งซื้อข้าวไทยมากขึ้น ดังนั้น สิ่งที่จะต้องเดินหน้าปรับปรุง คือ การตลาดทั้งระบบตั้งแต่ขั้นตอนการเพาะปลูก การรักษาวิจัยพันธุ์ข้าวชนิดใหม่มากขึ้น การลดต้นทุนที่ไม่จำเป็นลงมา เพื่อให้วงจรการเพาะปลูกข้าวไทยมีราคาต่ำกว่าคู่แข่ง เพราะเชื่อว่าการจัดทำยุทธศาสตร์ข้าวไทย โดยดึงทุกฝ่ายเข้ามามีส่วนร่วมจะทำให้การทำตลาดข้าวไทยในอนาคตสามารถแข่งขันกับคู่แข่งได้ แม้ว่าจะได้รับผลกระทบจากความผันผวนอัตราแลกเปลี่ยนก็ตาม
นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์จะร่วมมือกับสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยเดินหน้าหาคู่ค้าข้าวไทยในตลาดใหม่มากขึ้น เพราะเชื่อมั่นว่าคุณภาพข้าวไทยในตลาดโลกยังเป็นที่ต้องการมาก ดังนั้น จึงจำเป็นจะต้องมาวางแนวทางการทำตลาดข้าวไทยในตลาดโลกร่วมกันแบบให้เข้าถึงกลุ่มผู้บริโภค ซึ่งปีนี้ยอมรับว่าปัญหาเงินบาทที่แข็งค่าและการระบาดจากโควิด-19 ทำให้ไทยไม่สามารถเข้าไปทำตลาดในต่างประเทศได้มากนัก แต่ในส่วนของกระทรวงพาณิชย์ได้กำชับทูตพาณิชย์ประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกให้เร่งหาตลาดและประชาสัมพันธ์ข้าวไทย เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคในตลาดต่างประเทศมากขึ้น และคาดว่าปีนี้ข้าวไทยจะทำตลาดได้น้อยลงจากตัวเลขที่ทางสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยประเมินไว้ว่าจะส่งออกได้ประมาณ 6.5 ล้านตัน ต่ำกว่าที่เคยมองในช่วงต้นปีว่าน่าจะส่งออกได้ 7-7.5 ล้านตัน โดยสาเหตุหลักจากปัญหาโควิดและเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นถือเป็นปัจจัยสำคัญ ทำให้ปริมาณการส่งออกข้าวไทยปีนี้ไม่ดีนัก
อย่างไรก็ตาม เพื่อให้แนทางการพัฒนาข้าวไทยดีขึ้น ตนเป็นประธานมอบรางวัลการประกวดข้าวหอมมะลิไทยในงานประกวดข้าวหอมมะลิของประเทศไทย ปีการเพาะปลูก 2562/63 ครั้งที่ 38 การประกวดข้าวตราคุณภาพดีเด่น ประจำปี 2563 และการประกาศเกียรติคุณข้าวหอมมะลิบรรจุถุงที่ได้เครื่องหมายรับรองรูปพนมมือ ณ ห้องประชุมบุรฉัตรไชยากร ชั้น 4 อาคารสํานักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์
ทั้งนี้ การประกวดข้าวหอมมะลิของประเทศไทยปีการเพาะปลูก 2562 – 2563 ครั้งที่ 38 การประกวดข้าวตราคุณภาพดีเด่นประจำปี 2563 และการประกาศเกียรติคุณข้าวหอมมะลิบรรจุถุงที่ได้รับเครื่องหมายรับรองรูปพนมมือ รัฐบาลได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภาได้กำหนดนโยบายเร่งด่วนในการดำเนินโครงการประกันรายได้เพื่อพี่น้องเกษตรกรให้มีรายได้ที่เหมาะสมสอดคล้องกับต้นทุนการผลิตและเพียงพอต่อการดำรงชีพซึ่งสามารถดำเนินโครงการประกันรายได้ในพืชหลักทั้ง 5 ชนิดรวมทั้งข้าว ตั้งแต่ในช่วงฤดูกาลผลิตที่ผ่านมาภายในเวลาไม่ถึง 5 เดือนซึ่งพิสูจน์ว่ารัฐบาลสามารถ “ทำได้ไว ทำได้จริง” ช่วยให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวได้รับประโยชน์ถึง 4.3 ล้านครัวเรือนทั่วทั้งประเทศ
นอกจากนี้ รัฐบาลได้กำหนดวิสัยทัศน์ “เกษตรผลิต พาณิชย์ตลาด” ภายใต้ยุทธศาสตร์ “ตลาดนำการผลิต” เพื่อนำมาใช้ทำยุทธศาสตร์ข้าวแห่งชาติใน 5 ปีถัดจากนี้ไปนับตั้งแต่ปี 2563 คือปีนี้ไปจนกระทั่งถึงปี 2567 ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่การจัดทำยุทธศาสตร์ข้าวไทยได้ นำตลาดมาเป็นแนวทางหลักในการกำหนดทางการผลิตข้าวต่อไปในช่วง5ปี เพื่อสร้างโอกาสให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกคนได้มีโอกาสพัฒนาข้าวของและยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันสินค้าข้าวอย่างยังยืนอนาคตต่อไป.-สำนักข่าวไทย